ข่าวข่าวภูมิภาคข่าวอาชญากรรม

รองโฆษก ตร. แจงยืนยันข่าวปลอม เรื่องการโพสต์และส่งต่อข้อความ เบอร์อันตราย

รองโฆษก ตร. ได้ทำการยืนยันถึงข่าวปลอมภายในกรณีการโพสต์และส่งต่อข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับ เบอร์อันตราย ว่าเป็นข่าวเก่าเมื่อปี 2558

วันนี้ (14 ต.ค. 2564) – พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข่าวปลอม กรณีการโพสต์และส่งต่อข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับ เบอร์อันตราย โดยมีเนื้อหาว่า “มีเบอร์อันตราย 02-619XXXX โทรมาอย่ารับเด็ดขาด ถ้ารับจะยืนยันการสมัครเป็นสมาชิกทันที จะโทรยกเลิกก็ทำไม่ได้ ต้องเสียเงินทุกเดือน โดนหลายรายแล้ว ข่าวจากตำรวจภาค 5 นั้น

ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งปัจจุบันมีการนำข้อความดังกล่าวมาแชร์ซ้ำ จนเกิดเป็นกระแสที่สร้างความตระหนกต่อประชาชนที่ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

จากกรณีดังกล่าว รายการทุบโต๊ะข่าว ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ช่อง 34 ดำเนินรายการโดย คุณพุทธ อภิวรรณ และ คุณจิตดี ศรีดี ได้รายงานข่าว : เบอร์นี้โทรมาห้ามรับ! บริษัทดังโร่ขอโทษสังคม ทำคนไทยแตกตื่นเสียเงิน เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2558 เพื่อชี้แจงข้อมูลทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ให้ตระหนกตกใจและแจ้งให้ประชาชนรับรู้รับทราบถึงแนวทางแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยสำนักงาน กสทช. เห็นว่าผู้ที่นำข้อความดังกล่าวมาโพสต์น่าจะมีเจตนาเพื่อให้ประชาชนป้องกันและระมัดระวังในการดำเนินการใด ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน แต่อย่างไรก็ตาม การนำข้อมูลเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีตมาเผยแพร่ผ่าน โซเชียลมีเดีย โดยมิได้เป็นผู้ประสบปัญหาด้วยตนเอง และไม่ทราบที่มาแน่ชัด อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนและสับสน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท และผู้โพสต์อาจถูกบริษัท ฟ้องร้องเอาผิดได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกสทช. สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nbtc.go.th หรือโทร. 02 6708888

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นการนำเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในปี พ.ศ. 2558 มาโพสต์หรือส่งต่ออีกครั้ง ซึ่งการนำข้อความดังกล่าวมาเผยแพร่อีกครั้ง ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกตกใจ บริษัทฯ อาจเสียชื่อเสียง นำไปสู่การฟ้องร้องผู้โพสต์ข้อความได้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอม และผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

 

แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สามารถติดตามข่าวทั่วไปเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวทั่วไป

 

 

N. Siripariyasak

นักเขียนคอนเทนต์ จับประเด็นด้านเศรษฐกิจ-การเงิน, เทคโนโลยี, ไอที และเกมส์ อัปเดตข่าวทั้งจากในประเทศไทย และต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button