ปภ. เตือน 5 จังหวัด เตรียมรับมือการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ปภ. เตือน 5 จังหวัด รวมทั้งจังหวัดริมน้ำเจ้าพระยาช่วงต่อจากแม่น้ำป่าสัก เตรียมรับมือ สถานการณ์น้ำ หลังกรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำจาก เขื่อนป่าสัก
สถานการณ์น้ำ – วันที่ 28 ก.ย.64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกหนังสือ “ด่วนที่สุด” ถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และ นนทบุรี ให้เฝ้าระวังสถานการณ์เตรียมรับมือผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ด้วยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน ว่าในช่วงที่ผ่านมาพายุโขนร้อน “เตี้ยนหมู่” และหย่อมความกดอากาศต่ำ เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทำให้มีฝนตกหนาแน่น และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่
โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำท่ไหลลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระหว่างวันที่ 27 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2564 รวมจำนวน 515 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากยังคงระบายน้ำในอัตรา 8.64 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน จะทำให้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเต็มอ่างในวันที่ 30 กันยายน 2564
ดังนั้น เพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำที่จะไหลลงเขื่อนได้โดยไม่ทำให้น้ำเต็มเขื่อน กรมชลประทานจึงจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนฯ เป็น 34.56 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน หรือประมาณ 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีโดยจะทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนนี้หลลงไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท-บำสักแล้วจะควบคุมให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในอัตราไม่เกิน 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำปาสักตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหกในชุมชมนอกคันกั้นน้ำบริเวณวัดสะตือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2-2.5 เมตร
โดยระดับน้ำที่สูงขึ้นดังกล่าว จะไม่กระทบกับพื้นที่บริเวณตั้งแต่ท้ายน้ำวัดสะตือ ไปจนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- ข่าวน้ำท่วม วันนี้ อุ้มผางจมบาดาล อ่วมสุดรอบ 60 ปี ถนนถูกตัดขาด ไฟดับ วอนเร่งช่วยเหลือ
- สำนักงานรัฐมนตรี ศธ. แจงกรณี ภาพตัดต่อ กนกวรรณ ลุยน้ำท่วม
- ประยุทธ์ โพสต์ถึงสถานการณ์น้ำท่วม สั่ง ปภ. ดูแล 24 ชม. เร่งกรมชลฯระบายน้ำ