ตร.ร้อยเอ็ด เตรียม ฟ้องหมอปลา กรณีพาดพิงเอี่ยว วัดท่าพุ
ทนายเดชา เผย ตร.ร้อยเอ็ด ฟ้องหมอปลา จากกรณีที่มีการพาดพิงว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ วัดท่าพุ ขณะที่หมอปลาด่าตำรวจกลับ
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า “….13.30 น. ผู้บังคับการตำรวจภูธรร้อยเอ็ด แถลงข่าวใหญ่คดีหมอปลา ที่สภ.สุวรรณภูมิร้อยเอ็ด…” ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ก็ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “….แหล่งข่าวจาก กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด แจ้งว่า วันนี้ หลัง 10.00 น. ผู้กำกับ สภ.สุวรรณภูมิ จะไปแจ้งความดำเนินคดีกับหมอปลากับพวก…”
ทางฝ่าย “หมอปลา” ทราบว่าตัวเองและพวกกำลังจะถูกดำเนินคดี ทางเพจเฟซบุ๊ก “หมอปลาช่วยด้วย” ก็ได้ไลฟ์สด ขอบคุณ ผวจ.กาญจนบุรี และกำลังฝ่ายทหารที่เข้าไปช่วยเหลือ กลุ่มผู้บำบัดฯ ก่อนจะต้ดพ้อว่า “…ขอบคุณตำรวจที่ฟ้องหมอปลาที่ช่วยคน!! ภาษีเราต้องเสียเพื่อให้ตำรวจมาฟ้องพวกเรา!! ยุติธรรมโน๊ะ…ประเทศกูมี….” ทำให้ผู้ที่พบเห็นเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางอีกด้วย.
โดยก่อนหน้านี้หมอปลาได้ข้าช่วยเหลือผู้ที่เข้ารับการบำบัดประมาณ 216 คน เนื่องจากได้รับการร้องเรียน จากกลุ่มอดีตผู้เข้ารับการบำบัด ว่ามีขั้นตอนการบำบัดและรักษาไม่ถูกต้อง ไม่ถูกสุขลักษณะ มีการทำร้ายทรมานร่างกายและจิตใจ โดยการให้อดอาหาร ทำร้ายทุบตี จนถึงมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ศพ
ซึ่งหมอปลาและนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้เสียหายจากศูนย์บำบัดวัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 10 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์บำบัดฯ ในข้อหาค้ามนุษย์
นายไพศาลระบุว่า จากพฤติการณ์ของสถานบำบัดดังกล่าวเข้าข่ายค้ามนุษย์เนื่องจากมีการทำเป็นขบวนการตั้งแต่จัดหาผู้บำบัด การนำพา การเรียกรับเงินผลประโยชน์ กักขังทรมานทำร้ายทุบตี และที่สำคัญพบว่ามีการเสียชีวิตในสถานบำบัดก่อนหน้านี้ 2-3 ราย และเหตุการณ์นั้นไม่มีการชันสูตรพลิกศพ
โดยพบว่ามีกลุ่มข้าราชการตำรวจในหลายจังหวัดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดร้อยเอ็ด นอกจากนี้ ยังมีอาสาสมัครในจังหวัดกาญจนบุรี ที่นำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามารับการบำบัดและเรียกรับผลประโยชน์
นายไพศาล กล่าวต่อว่าบางรายไม่ได้เป็นผู้เสพยาเสพติดแต่เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอื่นเช่น ปัญหาการทะเลาะ การทำร้ายร่างกายก็ถูกรวบนำมาไว้ที่แห่งนี้ ถูกตำรวจและเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ต่อรองกับผู้ปกครองว่าหากให้บุตรหลานเข้ารับ การบำบัดเป็นเวลา 1 ปี จะไม่ต้องถูกดำเนินคดีแต่ก็จะต้องมีค่าใช้จ่าย