เพื่อไทย แฉ สธ. ยื่นเสนอเข้า COVAX แต่ถูก ประยุทธ์-อนุทิน ขวาง
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. จาก พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาซักฟอก ประยุทธ์ และ อนุทิน ว่าเป็นผู้ขัดขวางไม่ให้ไทยเข้า COVAX แม้ สธ. จะแนะให้ร่วมก็ตาม
เพจเฟซบุ๊กของ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความซึ่งเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ว่าทั้งคู่เป็นคนกีดกันไม่ให้ประเทศไทยเข้าร่วมโครงการ COVAX ซึ่งเป็นโครงการบริจาควัคซีนขององค์การอนามัยโลกหรือ WHO
โดยทางเพจระบุว่า “ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย จัดหนักในวันแรกของการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็น “การบริหารจัดการโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ผิดพลาด ล้มเหลว อีกทั้งยังทำการจัดซื้อวัคซีนอย่างไม่สุจริต” จนส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในทุกหย่อมหญ้า โดยตลอดระยะเวลาที่โรคระบาดเข้ามายังประเทศไทย ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 1,190,063 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมสูงถึง 11,399 ราย (ข้อมูลวันที่ 31 สิงหาคม 2564)
กลายเป็นประเด็นคำถามและข้อสงสัยเกิดขึ้นอยู่ในสังคมว่าเหตุใด ประชาชนคนไทยถึงไม่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ และเพราะอะไรประเทศไทยถึงตกขบวนโครงการ COVAX ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านประเทศไทย 7 ประเทศได้เข้าร่วมโครงการกันทั้งสิ้น ?
ซึ่งข้อสงสัยดังกล่าว ประเสริฐอธิบายว่า ความจริงแล้วกระทรวงสาธารณสุขได้ยื่นหนังสือแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการ COVAX แล้วตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 อย่างไรก็ดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับมีเจตนาที่จะไม่เข้าร่วมโครงการ COVAX ตั้งแต่ได้รับหนังสือตั้งแต่ต้น โดยอ้างเหตุผลมากมาย ตามที่ประชาชนรับทราบกันทั่วไปในสื่อต่างๆ ซึ่งมองได้ว่าอาจสุ่มเสี่ยงต่อการหลอกหลวงประชาชน
โดยประเสริฐ ได้แสดงหลักฐานเป็น “ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี” ที่ให้นโยบายต่อกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงต่างประเทศในการเข้าร่วมโครงการ COVAX โดยคำนึงว่า ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ด้านสาธารณสุข และในเนื้อหาดังกล่าวยังเขียนชัดว่า ‘มุ่งให้ไทยเป็นฐานผลิตวัคซีนส่งออกไปขายต่างประเทศทั่วโลก’ โดยถือเป็นนโยบาย ‘วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะ (Global Public Goods)’ ฟ้องชัดว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ได้คำคำนึงถึงชีวิตของประชาชนในประเทศก่อน ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
นอกจากนี้ ประเสริฐ ยังกล่าวต่ออีกว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความพยายามกีดกันและสั่งห้ามภาคเอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
“พลเอกประยุทธ์ และนายอนุทิน กีดกัน และไม่อนุญาตภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนทางเลือก ในขณะที่ เมื่อปลายปี 2563 ถึงต้นปี 2564 โดยสมาคมโรงพยาบาลเอกชน หอการค้าไทย 40 บริษัทซีอีโอ และสมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องรัฐบาล เพื่อขอนำเข้าวัคซีนทางเลือกภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล โดยใช้สถานการณ์ฉุกเฉินเป็นข้ออ้าง แม้ภายหลังจะต้านกระแสสังคมไม่ไหวก็ตาม จึงทำทีเหมือนว่าจะเปิดโอกาสให้เอกชนได้นำเข้าวัคซีนได้เอง แต่ก็ติดปัญหาอุปสรรคมากมาย
การบริหารงานของพลเอกประยุทธ์ และนายอนุทินสะท้อนให้เห็นถึงระบบราชการที่ล้าหลัง ดังนั้น ประเทศไทยจึงตกอยู่ในวิกฤติการขาดแคลนวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรน่า 2019 อีกทั้งพลเอกประยุทธ์ และอนุทิน ยังใช้เป็นข้ออ้างในการจัดซื้อวัคซีน Sinovac จนหลายฝ่ายเกิดข้อสงสัยในเรื่องผลประโยชน์จากการจัดซื้อวัคซีนครั้งนี้” เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าว”
- ประเสริฐ เพื่อไทย แฉเอกสารซื้อซิโนแวค ส่วนต่าง 2 พันล้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจ
- ส่อง ญัตติซักฟอก ‘ประยุทธ์’ และ ห้ารัฐมนตรี มุ่งเน้นประเด็นโควิด
- สธ. ออกโรง ขอโทษ กรณีจัดหาวัคซีนล่าช้า จ่อหาทางร่วม covax