สรุปไทม์ไลน์ โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ 25 ชั่วโมง กับภารกิจคุมเพลิงครั้งยิ่งใหญ่
ตั้งแต่เกิดเหตุ จนควบคุมเพลิงได้สำเร็จ เวลากว่า 27 ชั่วโมงเกิดอะไรขึ้นบ้าง กับเหตุระเบิดโรงงานผลิตโฟมแห่งหนึ่งในสมุทรปราการ เราสรุปรวมทุกประเด็นไว้ที่นี่
สรุปไทม์ไลน์ เหตุระเบิด โรงงานกิ่งแก้ว
03.10 น. หรือเช้ามืดของวันที่ 5 ก.ค. มีรายงานรับแจ้งเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ โรงงานผลิตโฟมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ ทราบชื่อภายหลัง คือ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ลักษณะโรงงานเป็นโกดังเก็บสารเคมี 50 ตัน
ผลกระทบเบื้องต้น บ้านเรือนบะแวกใกล้เคียงได้รับความเสียหายจำนวนมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 20 คน
08.00 น. โดยประมาณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ รัศมี 5 กิโลเมตร เนื่องจากไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และหวั่นว่าไฟจะลามไปติดถังสารเคมี 20,000 ลิตรที่อยู่ใกล้เคียง
ช่วงสายมีรายงานว่าสารเคมีอันตรายชริดหนึ่ง ได้แก่ สารสไตรีนโมโนเมอร์ ที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตโฟม ซึ่งมีคุณสมบัติติดไฟง่าย
12.00 น. ได้เกิดระเบิดระลอกที่สอง หลังจากมีสารเคมีรั่วไหลออกมา ทำให้ไฟลุกโหมขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และเสียชีวิตอีก 1 นาย
ต่อมา เฮลิคอปเตอร์ KA-32 ซึ่งกองทัพบก (ทบ.) ร่วมกับ ปภ. ส่งเข้าสนับสนุนภารกิจระงับเหตุไฟไหม้ ได้ขึ้นบินเที่ยวแรก
นอกจากนี้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมด้วยเครื่องจักรกลสาธารณภัยสนับสนุนการดับเพลิงฯ ประกอบด้วย รถหอน้ำ 37 เมตร, รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว, รถบรรทุกน้ำช่วยดับเพลิง และรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเพื่อขนโฟมดับเพลิง รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต 10 นาย
22.30 น. ทีมโดรน Novy ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เชี่ยวชาญ ก่อนเข้าปิดวาล์วถังเคมีได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้นเปลวเพลิงยังคงลุกไหม้อยู่เป็นระยะ
23.45 น. เจ้าหน้าที่ ปภ. รายงาน สามารถปิดวาล์วถังสารเคมี ทั้ง 3 จุด ในโรงงาน และสามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ แต่ยังต้องระดมฉีดโฟมเลี้ยงไว้ก่อนต่อเนื่อง
00.30 น. (6 ก.ค.) จส.100 รายงานว่า โรงงานหมิงตี้ยังคงมีแสงเพลิงลุกไหม้กลับมาอีกครั้ง
02.50 น. (6 ก.ค.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระเกษตรฯ ลงพื้นที่
03.10 น. (6 ก.ค.) เหตุระเบิดไฟไหม้โรงงานหมิงตี้กินเวลามากกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว โดย จส.100 เปิดเผยว่า แม้เจ้าหน้าที่จะเข้าปิดวาล์วถังเก็บสารเคมีได้แล้ว แต่ยังคงมีไฟคุขึ้นมาเป็นระยะ พร้อมกับควันดำ ยังคงต้องฉีดโฟมและน้ำเพื่อควบคุม
03.45 น. (6 ก.ค.) เจ้าหน้าที่พาหัวหน้าคนงานโรงงานหมิงตี้มาชี้จุดและอธิบายผังโรงงาน เพื่อให้การควบคุมเพลิงทำได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
06:20 น. (6 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ระดมกำลังข้ามวัน ควบคุมเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ฯ ซ.กิ่งแก้ว21 ยืนยันดับเพลิงได้แล้ว แต่ยังคงต้องฉีดน้ำลดอุณหภูมิ แม้จะปิดวาล์วถังสารเคมีได้แล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด เวลา 11.00 น. ของวันนี้ 6 ก.ค.64 ทวิตเตอร์ กองทัพบก Royal Thai Army เตรียมส่งนักบินและ จนท.ของ ทบ. ประจำ ฮ.ปภ.KA 32 สานต่อภารกิจดับไฟ โรงงานกิ่งแก้ว สมุทรปราการ โดยแผนวันนี้ นำเครื่อง 2 ลำ บรรทุกน้ำบินโปรยควบคุมเพลิงช่วง 10.00 น. – 12.00 น. จำนวน 10 เที่ยวบิน พร้อมประเมินสถานการณ์ร่วมกับทีมภาคพื้นดิน
หลายหน่วยงานกังวลเรื่องผลกระทบ
กรมควบคุมมลพิษ พบสารฟอร์มัลดีไฮด์ สูงเกินค่ามาตรฐานที่ รง.หมิงตี้ ห่วงฝนตกสารเคมีไหลลงน้ำ ขณะเดียวกัน ผลการตรวจของกรมควบคุมมลพิษพบว่า เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นได้ก่อให้เกิดมลพิษไกลถึง 9 กม.
โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่โดยรอบในระยะ 500 เมตร ถึง 9 กิโลเมตร โดยตรวจวัดระดับขีดจำกัดการติดไฟ (LEL) ปริมาณสารอินทรีย์ระเหย (VOCs) ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) พบว่าอยู่ในเกณฑ์ค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน
เร่งประสานเยียวยาประชาชน
คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตั้งศูนย์ประสานงานด้านประกันภัยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเพลิงไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว
ด้าน รศ.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นในอากาศที่มาจากการเผาไหม้ คือ ฝุ่น PM 2.5 พร้อมกับสารปนเปื้อนสารเคมี เป็นกลุ่มหมอกควัน กระทบต่อประชาชนที่อาศัยโดยรอบ และยังเป็นผลต่อสุขภาพในระยะยาว
ขอบคุณภาพ : สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย D.R.A.T
อ้างอิงข้อมูลจาก : thestandard, BBCThai, Matichon