ข่าวภูมิภาค

ข่าวปลอม! แรงงานต่างด้าว ทุบกำแพงหนีกักตัว โควิด-19

จากข่าวที่ว่ามี แรงงานต่างด้าว ได้ทำการทุบกำแพงของพื้นที่กักตัว โดยหวังจะทำการหลบหนีการกักตัวเพื่อตรวจสอบเชื้อไวรัส โควิด-19 นั้น ถือว่าเป็น ข่าวปลอม

ตามที่มีการเผยแพร่ภาพ และข้อความโดยระบุว่า แรงงานต่างชาติ (แรงงานต่างด้าว) ลักลอบทุบกำแพง หลังพื้นที่กักกันเพื่อหลบหนี การกักตัวตรวจสอบเชื้อไวรัส โควิด-19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็น ข่าวปลอม ที่มีข้อมูลเท็จ

Advertisements

กรณีการแชร์ภาพ พร้อมข้อความว่าแรงงานทุบกำแพง แหกที่กักกัน ในพื้นที่ตลาดกุ้ง หนีออกมาเพียบ ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบ และชี้แจงว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง เนื่องจากจุดบริเวณดังกล่าวเป็นช่องกำแพงเก่าที่พังอยู่แล้ว ไม่ใช่พังเพราะแรงงานที่ถูกกักตัว และจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีแรงงานต่างชาติลักลอบเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ควบคุมตามช่องทางดังกล่าวแต่อย่างใด และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้อำนวยการลงรั้วลวดหนามและเสริมรั้วป้องกันพื้นที่ มีกำลังเจ้าหน้าที่เวรยามประจำจุด รวมถึงได้เพิ่มเติมการติดตั้งไฟส่องสว่าง

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ – https://ddc.moph.go.th/ หรือโทรสายด่วน 1422 และเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : จุดบริเวณดังกล่าวเป็นช่องกำแพงเก่าที่พังอยู่แล้ว ไม่ใช่พังเพราะแรงงานที่ถูกกักตัว ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีแรงงานต่างชาติลักลอบเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ควบคุมตามช่องทางดังกล่าวแต่อย่างใด

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข

 

Advertisements

แหล่งที่มาของข่าว : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย

 


#ข่าวทั่วไป #ข่าวปลอม #ข่าวภาคกลาง #แรงงานต่างด้าว #แรงงานต่างชาติ #โควิด-19 #โควิด #โคโรน่าไวรัส

ไทยเกอร์นิวส์

นำเสนออัปเดตข่าวสารบ้านเมือง ข่าวล่าสุด มั่นใจว่าคุณจะทันทุกสถานการณ์ ไม่ว่า สังคมเศรษฐกิจ การเงิน การเมือง เรื่องร้อนออนไลน์ ดราม่าดารา อัปเดตบันเทิง ซีรีส์ หนัง เพลง ท่องเที่ยว กีฬา ตรวจหวย เลขเด็ด พร้อมเสิรฟ์ทุกเรื่องยาก ๆ ย่อยให้คุณเข้าใจง่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button