มุสลิมเพื่อสันติค้าน พ.ร.บ.คู่ชีวิต หวั่นสังคมเสื่อมเสีย

Aindravudhเผยแพร่: 10 ก.ค. 2563 15:24 น.| อัปเดต: 10 ก.ค. 2563 16:35 น.

101

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติค้าน พ.ร.บ.คู่ชีวิต หวั่นทำลายคุณธรรม-จริยธรรมอันดีงามของประเทศ

จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต ล่าสุดทางเพจ มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ – Muslim for Peace Foundation ได้ออกหนังสือเรื่องคัดค้านกฎหมายคู่ชีวิต เนื้อความว่า

Advertisements

“ตามที่ปรากฏข่าวว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พุทธศักราช 2563 เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบทบัญญัติเฉพาะเกี่ยวกับการจดทะเบียนคู่ชีวิต และการเลิกการเป็นคู่ชีวิตสิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่ชีวิต การจัดการทรัพย์สิน การรับบุตรบุญธรรมและมรดกเพื่อรองรับความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลที่มีเพศเดียวกันโดยกำเนิด มีการอุปการะเลี้ยงดูและมีความสัมพันธ์ในด้านอื่น ๆ ไม่แตกต่างไปจากคู่สมรสซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้น ระหว่างบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและสอดคล้องกับสภาพสังคมปัจจุบัน

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติมีความเป็นห่วงต่อกฎหมายฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง หากมีการบังคับใช้ เพราะเป็นกฎหมายที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีและเป็นกฎหมายที่จะสร้างความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นในสังคมเป็นอย่างมาก ประเทศไทยเป็นประเทศที่ตั้งมั่นและให้ความสำคัญกับหลักคำสอนของศาสนาและศีลธรรมอันดีมาโดยตลอด เน้นความดีงามที่ตั้งอยู่บนหลักศาสนาให้เกิดขึ้นแก่สถาบันครอบครัวและสังคม

แต่กฎหมายฉบับนี้อาจทำให้ประเทศไทยเกิดความเสื่อมสลายทางสังคม ศีลธรรมอันดีงามถูกทำลาย หลักคําสอนของศาสนาถูกเพิกเฉย และจะทำให้สังคมเกิดวิกฤตจนลุกลามบานปลายและยากเกินการแก้ปัญหาเยียวยา

มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติจึงขอคัดค้านกฎหมายคู่ชีวิตอย่างเต็มที่ เพราะเล็งเห็นถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นกฎหมายที่ได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวอาจจะขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญและโครงสร้างกฎหมายหลายฉบับที่ยึดมั่นในรูปแบบครอบครัวของธรรมชาติที่มีผู้กองเป็นสามีภรรยาจากเพศชายและเพศหญิง และจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสังคมที่จะนำมาซึ่งความไม่สงบในประเทศชาติรวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ ที่จะเพิ่มให้ครอบครัวตลอดจนส่งผลต่อความไม่เสมอภาคในสังคมในหลายด้าน เป็นเหตุที่ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในระบบกฎหมาย สิทธิของประชาชน ตลอดจนสวัสดิการของรัฐที่ต้องพึงมีต่อประชาชน

จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ทบทวนและยกเลิกกฎหมายฉบับนี้ จึงขอเรียกร้องฝ่ายนิติบัญญัติได้ยับยั้งกฎหมายฉบับนี้ขอเรียกร้องสถาบันศาสนาได้แสดงจุดยืนกฎหมายที่ขัดกับหลักคำสอนขอเรียกร้องประชาชนผู้รับในศิลธรรมอันดีและยึดมั่นปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนาช่วยกันแสดงพลังของสังคมไม่ให้กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยและหวังที่จะให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความดีงามป้องกันและปราบปรามสิ่งชั่วร้ายเพื่อให้ประเทศไทยมีความสันติสุข เจริญก้าวหน้าเพื่อความดีงามอย่างแท้จริงตลอดไป