การแข่งขันศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 26 ประจำฤดูกาล 2019/20 การพบกันระหว่าง นกขมิ้นเหลืองเขียว นอริช ซิตี้ เปิดสนาม แคร์โรว โร้ด ต้อนรับการมาเยือนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล จ่าฝูง ที่กำลังต้องการชัยชนะ เพื่อทำแต้มหนี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ การันตีแชมป์ลีกให้ไวที่สุด
เจ้าบ้าน นอริช จัดทัพลงสนามมาในระบบ 4-2-3-1 ตีมู พุกกี้ ล่าตาข่ายในตำแหน่งหน้าเป้า โดยมี ลูคัส รุพพ์, ออนเดรย์ ดูด้า และ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ สนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มาในระบบ 4-3-3 ตามเดิม โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน เป็น 3 ผสานตัวจริง ในรายของ ซาดิโอ มาเน่ เป็นตัวสำรองเนื่องจากเพิ่งหายเจ็บกลับมา
8 สถิติ พรีเมียร์ลีก ที่รอให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทำลาย! ใน 13 เกมที่เหลืออยู่
เริ่มต้นเป็น หงส์แดง ทักทายก่อนเลย โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ไหลออกขวาให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตั้งป้อมซัดไกลแต่บอลหลุดกรอบออกไปเยอะ
อีก 6 นาทีต่อมา หงส์แดงได้โอกาสยิงเข้ากรอบหนแรก หลังบอลปลิ้นมาเข้าทาง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่บอลเบาไปเข้ามือ ทิม ครูล
ที่ 24 นอริช ต้องเปลี่ยนนักเตะคนแรกอย่างไวเมื่อ ไบแรม เจ็บแฮมสตริงตอนยืดขาเอาบอลเล่นต่อไม่ไหวต้องให้ทางจามาล ลูอิส ลงสนามมาเจอกับ ซาลาห์ แทน
นาทีที่ 35 นอริช อดได้ประตูขึ้นนำแบบไม่น่าเชื่อ เป็นการวางยาวของลูอิสจากแดนหลังแล้วชุ๊ปป์หลุดล้ำหน้าไปเกี่ยวบอลติดแล้วจะปล่อยให้ปุ๊กกี้เล่นทว่าอลิสซอนพุ่งไปปัดบอลทิ้งไม่งั้นโดนยิงเหน่งๆแน่นอน
นาทีที่ 45 ท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ได้เตะมุมกันหลายหนแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลยทำให้จบเกมคล็อปป์ต้องกลับไปแก้เกมลงมาเจาะเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ได้มากกว่านี้
ครึ่งหลังมานาที 52 เจ้าถิ่นแก้เกมมาดี มีโอกาสลุ้นประตูเช่นกันหลัง ท็อดด์ แคนท์เวลล์ เบียดเข้าไปก่อนสับไกซัดมุมแคบบอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
นาที 57 หงส์แดง ได้โอกาสส่องเข้ากรอบเป็นครั้งที่ 2 หลัง นาบี เกอิต้า ซัดไกลบอลพุ่งแรงแต่ยังไปตรงตัว ทิม ครูล ปัดออกหลัง
นาทีที่ 59 ไม่น่าเชื่อว่าหงส์แดงไม่ได้ประตูขึ้นนำซาลาห์จับบอลลงก่อนพลิกอย่างสวยแล้วดีดด้วยขวาครูลล้มตัวปัดแล้วบอลมาตั้งให้เกอิต้าซ้ำจ่อๆในกรอบหกหลาทว่าครูลก็ยังตามมาเซฟเอาไว้อีก
GOAL !!! นาทีที่ 78 หงส์แดง ส่งบอลไปตุงตาข่ายจากจังหวะที่ เฮนเดอร์สัน ยกบอลจากกลางสนามให้ มาเน่ เกี่ยวบอลด้วยขวาแล้วหมุนตัวมายิงบอลพุ่งเสียบเสาแรกเข้าไปหมดจด แต่กรรมการขอดู VAR เช็คว่าฟาวล์หรือไม่ก่อนให้เป็นประตู 1-0 และนี่ยังเป็นประตูที่ 100 ของดาวยิงเซเนกัลรายนี้ในศึก พรีเมียร์ลีก อีกด้วย
นาทีที่ 89 นอริช ได้ลุ้นประตูตีเสมอเลยเมื่อได้จังหวะสวนกลับเร็วแล้วบอลมาเข้าทางของปุ๊กกี้ควบหนีโกเมซก่อนยิงด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งไปเข้าซองของ อลิสซอน
จบเกม ลิเวอร์พูล เอาตัวรอดเบียดชนะ นอริช ซิตี้ หวุดหวิด 1-0 โดยมาได้ประตูชัยจาก มาเน่ ตัวสำรองพร้อมขยับหนีอันดับ 2 ถึง 25 แต้มและต้องการชัยชนะอีก 5 นัดเท่านั้น
ไฮไลท์ นอริช ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
นอริช ซิตี้ : ทิม ครูล – แม็กซ์ อารอนส์, คริสโตฟ ซิมเมอร์มันน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, แซม ไบแรม – อเล็กซ์ เต็ตเตย์, เคนนี่ แม็คลีน – ลูคัส รุพพ์, ออนเดรย์ ดูด้า, ท็อดด์ แคนท์เวลล์ – ตีมู พุกกี้
ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – นาบี เกอิต้า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน
