“หนังโป๊ – Sex toy” ถูกกฎหมาย ขอเสนอทางเลือกในการลดปัญหาการข่มขืนในประเทศไทย
“หนังโป๊ – Sex toy” ถูกกฎหมาย ขอเสนอทางเลือกในการลดปัญหาการข่มขืนในประเทศไทย
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับการแต่งตั้งเป็น #โฆษก ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ของสภาผู้แทนราษฎร
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ตื่นเต้นและท้าทายมากๆครับ ต้องขอบคุณสำหรับโอกาสจากทางพรรคเพื่อไทย ที่เล็งเห็นปัญหาและเห็นว่าผมเป็นคนหนึ่งที่สามารถมีส่วนร่วมกับกรรมาธิการนี้ได้ จะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ครับ
ผมทำการบ้าน และพบข้อมูลจาก สสส. เป็นตัวเลขที่น่ากังวล เมื่อพบว่าผู้หญิงไทยถูกล่วงละเมิดทางเพศ วันละไม่น้อยกว่า 7 คน และมีตัวเลขของผู้หญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษา แจ้งความร้องทุกข์ สูงถึงปีละ 30,000 คน โดยเฉพาะวัยระหว่าง 15-19 ปี
ซึ่งผมได้มีโอกาสมาศึกษาข้อกฎหมายความผิดฐานกระชำทำชำเรา (ข่มขืน) พบว่าบทลงโทษในกฎหมายนั้นมีหลากหลายบทลงโทษ ซึ่งหนักสุดคงเป็นการกระทำชำเราเด็กอายุ ไม่เกิน 15 ปี และ ต่อมาด้วยข้อหากระทำชำเราเยาวชนอายุ 15-18ปี ซึ่งบทลงโทษก็มีการปรับให้รุนแรงขึ้นมา โดยเฉพาะหากการข่มขืนนั้น มีการ “ทำร้ายร่างกาย” แต่หากการข่มขืนโดยไม่ได้มีการทำร้ายร่างกาย เช่น พ่อเลี้ยง-ลูกเลี้ยง บทลงโทษก็แค่ติดคุกไม่กี่ปี และอีกไม่กี่ปี พวกเขาก็มาเดินได้ตามถนนปกติ
แต่ที่น่าตกใจกว่าคืออะไรรู้ไหมครับ? จากสถิติพบว่า คนที่เคยก่อเหตุข่มขืนมาแล้ว มักกลับทำอีกครับ! แปลว่าเราอาจต้องทบทวนถึงบทลงโทษกันยกใหญ่เลยทีเดียว ว่ามันแรงพอหรือไม่ และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดหรือไม่
มนุษย์เป็นสัตว์สังคมครับ และแน่นอนว่าธรรมชาติของมนุษย์ ก็เสมือนสัตว์ทั่วไปที่มีความอยากในเรื่องเพศ จึงอดคิดไม่ได้ว่า หากผมจะขอเสนอให้หนังโป๊ และ อุปกรณ์ช่วยเหลือทางเพศ อย่าง sex toy ถูกกฎหมาย ซึ่งน่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยลดอัตราการข่มขืนได้ เพราะแทนที่จะไปปลดปล่อยกับผู้อื่น ก็จะได้มีที่ทางให้ปลดปล่อยลงที่สิ่งเหล่านี้แทน พูดแบบตรงๆคือเป็นการลดกำหนดและลดตัณหาเรื่องเพศ ให้สามารถมีทางเลือกที่จะปลดปล่อยธรรมชาติเหล่านั้น
แต่เรื่องนี้ อาจเป็นเหมือนการโยนหินถามทาง ผมไม่ใช่คนในสังคมไทยคนแรกที่เสนอไอเดียนี้ แต่งานวิจัยหรือตัวเลขบางอย่างก็บอกว่าคนไทย มีรสนิยมเรื่องเพศสูงไม่แพ้ชาติใด
และเมื่อสังคมไทยเป็นพหุวัฒนธรรม ทั้งความคิดอนุรักษ์นิยม และความก้าวหน้าอยู่ด้วยกัน จึงเป็นเรื่องที่ต้องหาตรงกลางให้เจอ เพราะจากสถิติที่ผ่านมาก็บอกเราได้แล้วว่าการแก้ไขปัญหาด้วยการจับกุมคุมขังอย่างเดียว ไม่สามารถลดสถิติการโดนข่มขืนได้
ในต่างประเทศมีตัวอย่างของ sex toy ที่ถูกกฎหมายอาทิ ญี่ปุ่น ซึ่งคนไทยก็บริโภคและเสพสื่อจากประเทศนี้อยู่มาก จึงน่าสนใจโมเดลทั้งทางกฎหมายและสังคมของเขา ที่จารีตมีความเคร่งครัดประเทศหนึ่ง แต่วิธีบริหารจัดการเรื่องเพศกลับดูเสรี
ผมจึงคิดว่าเป็นการนำเสนอให้การดูหนังโป๊ และ sex toy ถูกกฎหมาย ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่คณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้เองก็มองข้ามไม่ได้ ซึ่งผมจะขอนำเสนอให้ทางกรรมาธิการทำการศึกษา ถึงผลกระทบให้รอบด้านต่อไปครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม:ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส – Treerat Sirichantaropas
ภาพประกอบจาก:ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส – Treerat Sirichantaropas