ปารีณา เก็บตัวเงียบ ไม่รับโทรศัพท์พ่อ คาดเครียดเรื่องที่ดินรุกป่า
ปารีณา เก็บตัวเงียบ ไม่รับโทรศัพท์พ่อ คาดเครียดเรื่องที่ดินรุกป่า
ปารีณา – วันที่ 26 พ.ย.จากกรณีนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ราชบุรี ตำรวจ กก.บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมบึง กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.1-3 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 10 (ราชบุรี) และเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ดินฟาร์มไก่ ของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ที่ ม.6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พบว่า ฟาร์มไก่พื้นที่ 46 ไร่ ตั้งอยู่บนที่ของป่าสงวน แบ่งเป็น ฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จำนวนประมาณ 30 ไร่ 2. อยู่ในเขตป่าไม้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าวก่อนหน้า : จนท.พบ ฟาร์มไก่ปารีณา รุกป่า 46 ไร่ ขีดเส้นตายชี้แจงถึง 4 ธ.ค.
ต่อมา นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ได้ทำหนังสือถึง อธิบดีกรมป่าไม้ ขอให้ตรวจสอบที่ดินให้รอบคอบก่อนดำเนินคดี ความว่า
“ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในขณะนี้ว่าดิฉัน นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ สมาชิกสมาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรีนั้น
ดิฉันขอชี้แจงว่าได้ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวโดนสุริตและเปิดเผยเป็นเวลานับสิบปีแล้ว โดยมีลักษณะการทำประโยชน์เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการใด ตรวจสอบหรือแจ้งว่าดิฉันกระทำผิด ซึ่งจากการตรวจสอบตามที่ปรากฎเป็นข่าวอยู่บริเวณที่อาจอยู่นอกป่าสงวนแห่งชาติ โดยหลักฐานที่ดำเนินการเป็นแผนที่ท้ายกฎกระทรวงฯ มีมาตราส่วน 1:400,000 และแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินมีมาตราส่วน 1:100,000 จึงขอให้กรมป่าไม้และสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ตรวจสอบแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตปฏิรูปที่ดินโดยละเอียดรอบคอบก่อนการดำเนินคดีใด ๆ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนอกจากดิฉัน ยังมีราษฎรต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวด้วย จะได้รับความเดือดร้อนการกระทำโดยยังไม่มีการตรวจสอบเขตที่ชัดเจน”
ล่าสุด นายทวี ไกรคุปต์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า โทรหาลูกสาวไม่ติด เขาปิดโทรศัพท์ ไม่คุยกับใครเลย รู้แค่ว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ รู้สึกสงสารลูกที่ต้องมาเจอเกมการเมือง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : ข่าวสดออนไลน์ และ มติชนออนไลน์