วานนี้ (20 ก.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ออกมาประกาศยกระดับการจัดการสาธารณภัย น้ำท่วมใหญ่ที่จ.อุบลราชธานีเป้น ภัยพิบัติระดับ 3 แล้ว
โดยประกาศดังกล่าว เกิดขึ้นหลังกองบัญชาการฯ ได้ตรวจสอบแนวโน้มสถานการณ์ ร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ พบว่าจากอิทธิพลของร่องมรสุมอาจส่งผลให้เกิดประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งฝนจะตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับข้อมูลของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและกรมชลประทาน ซึ่งแสดงว่าสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลมีระดับลดลงแต่ยังคงล้นตลิ่ง
ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นเชิงพื้นที่ของ จ.อุบลราชธานี ว่าสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และสถานการณ์ยังมีความรุนแรงต่อเนื่อง ทางกองบัญชาการจึงต้องประกาศยกระดับภัยพิบัติขึ้น
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะผู้อำนวยการกลาง จะทำหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลและอำนวยการประสานงานประเมินสถานการณ์ติดตามเฝ้าระวังวิเคราะห์สถานการณ์ รวมถึงรายงานเสนอความคิดเห็น ต่อผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ
และจากการพิจารณาแล้ว จึงได้มีการจัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้าขึ้นที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสารภัยเขต 13 อุบลราชธานี โดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้กำกับควบคุมพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และร้อยเอ็ด โดยร่วมมือกับผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการต่างๆ
นอกจากนี้ กองบัญชาการฯ ได้จัดตั้งส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินตามที่ผู้บัญชาการฯ เห็นสมควร และประสานการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยกับทุกภาคส่วน อาทิ เอกชน จิตอาสา ต่างๆ และเมื่อ สถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลาย จะเร่งสำรวจความเสียหายในด้านต่างๆ เพื่อทำการฟื้นฟูให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว
ที่มา ข่าวสด
