ข่าว

แปลกแต่จริง พยาบาลแผนกสูติ ท้องพร้อมกัน 14 คน

โรงพยาบาล HSHS St. Vincent ในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ประกาศข่าวดีต้อนรับสัปดาห์พยาบาลแห่งชาติ นางพยาบาล เจ้าหน้าที่แผนกแม่และเด็กถึง 14 ราย ทั้งพร้อมกัน ซึ่งหลายคนกำลังจะได้เป็นคุณแม่ครั้งแรก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องแปลกแต่น่ายินดี โรงพยาบาล HSHS St. Vincent ในเมืองกรีนเบย์ รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ประกาศข่าวเรียกรอยยิ้มไปทั่วทั้งโรงพยาบาล พยาบาลวิชาชีพในแผนกสูตินรีเวชถึง 14 คนกำลังตั้งครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกัน

เอมี บาร์ดอน ผู้อำนวยการศูนย์แม่และเด็กของโรงพยาบาล กล่าวว่านี่เป็นช่วงเวลาน่าทึ่งมาก เธอบอกว่าพยาบาลเหล่านี้มีความเชี่ยวชาญเรื่องทารกอยู่แล้ว แต่สำหรับหลายคนที่กำลังจะเป็นคุณแม่ครั้งแรก ประสบการณ์ตรงครั้งนี้จะทำให้ความเข้าใจในการดูแลทารกและคุณแม่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปอีก

โรงพยาบาล HSHS St. Vincent ในรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา ประกาศข่าวดีต้อนรับสัปดาห์พยาบาลแห่งชาติ นางพยาบาล เจ้าหน้าที่แผนกแม่และเด็กถึง 14 ราย

“ฉันตื่นเต้นไปกับพยาบาลของเราทุกคนและการเดินทางที่พวกเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ฉันหวังว่าพวกเธอจะมีสัปดาห์พยาบาลและวันแม่ที่พิเศษสุด”

บาร์ดอนเสริมว่า เมื่อถึงเวลาที่พยาบาลเหล่านี้ต้องคลอดลูก พวกเธอก็จะได้รับการดูแลจากเพื่อนร่วมงานของตัวเองในโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งสร้างความรู้สึกสบายใจ อบอุ่นเหมือนคนในชุมชนเดียวกัน

“ก่อนที่จะถึงวันคลอด พยาบาลกลุ่มนี้ก็ได้สร้างสายสัมพันธ์ที่พิเศษกับเพื่อนร่วมงานแล้ว ฉันดีใจที่แต่ละคนมีโอกาสได้ผ่านช่วงเวลาที่แสนพิเศษนี้ไปพร้อมๆ กัน” ผู้อำนวยการศูนย์แม่และเด็กกล่าวทิ้งท้าย

ภาพจาก: HSHS St. Vincent Hospital

ข้อเท็จจริงน่าตกใจเกี่ยวกับสิทธิลาคลอดในสหรัฐฯ

สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่พัฒนาแล้วที่ไม่มีกฎหมายระดับประเทศบังคับให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างระหว่างการลาคลอด ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากต้องเผชิญกับความยากลำบากทั้งทางการเงินและสุขภาพกายใจหลังคลอด

สถิติ ผู้หญิงวัยทำงาน 40% ไม่มีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัติการลาเพื่อการแพทย์และครอบครัว (FMLA) ซึ่งให้สิทธิ์ลางานโดย “ไม่ได้รับค่าจ้าง” เป็นเวลา 12 สัปดาห์ นั่นหมายความว่าพวกเธอไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ในการลางาน อาจเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง หากลานานเกินไป

ในกลุ่มลูกจ้างภาคเอกชนทั้งหมด มีผู้หญิงเพียง 12% เท่านั้นที่บริษัทมีนโยบายให้ลาคลอดโดยได้รับค่าจ้าง 25% ต้องกลับไปทำงานใน 2 สัปดาห์หลังคลอดเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว

ในบรรดาประเทศทั่วโลก มีถึง 178 ประเทศที่มีกฎหมายรับรองสิทธิลาคลอดแบบได้รับค่าจ้าง แต่สหรัฐอเมริกาไม่ได้อยู่ในนั้น

ผลกระทบจากนโยบายที่ไม่ครอบคลุม ทำให้สหรัฐฯ ยังมีอัตราการเสียชีวิตของทารกสูงที่สุดในกลุ่ม 28 ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก อยู่ที่ 6.1 คนต่อการเกิด 1,000 คน ผู้หญิงจำนวนมากลังเลที่จะมีลูกเนื่องจากความเครียดทางเศรษฐกิจ ทำให้อัตราการเกิดลดลงเหลือเพียง 1.83 คนต่อผู้หญิง ซึ่งต่ำกว่าระดับที่จำเป็นต่อการรักษจำนวนประชากร และอาจส่งผลกระทบต่อ GDP และเศรษฐกิจในระยะยาว

ผู้หญิง 1 ใน 10 คนในสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งการไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญ

ถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องเปลี่ยนมุมมองต่อการลาคลอด จากที่เคยมองว่าเป็นสิทธิพิเศษ มาเป็นการยอมรับว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่จำเป็นต่ออนาคตของชาติ เพราะหากผู้หญิงไม่สามารถทำงานและมีลูกได้อย่างมั่นคง เศรษฐกิจและสังคมก็ไม่อาจเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button