
ผู้ว่าการ ธปท. เผยผลสำเร็จ ปิดบัญชีม้าแล้ว 2.8 ล้านบัญชี ยอดเสียหายลด ยอมรับมาตรการกระทบคนสุจริต เร่งแก้ปัญหาให้จบในสิ้นเดือนนี้
19 กันยายน 2568 ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงความคืบหน้าการแก้ปัญหาภัยการเงินและบัญชีม้า เผยว่า ธปท. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการปิดบัญชีม้าไปแล้วกว่า 2.8 ล้านบัญชี แต่ยอมรับมาตรการที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อผู้สุจริตในวงกว้างกว่าที่คาดไว้
ผู้ว่าการ ธปท. ระบุว่า แม้การเงินดิจิทัลของไทยจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็มาพร้อมกับภัยการเงินที่รุนแรงขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2565 มีผู้เสียหายแจ้งความแล้วกว่า 1 ล้านราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 9.8 หมื่นล้านบาท
ดร.เศรษฐพุฒิ ชี้ว่าการแก้ปัญหาเป็นเรื่องท้าทายและต้องแข่งกับเวลา ข้อมูลพบว่า เงินของผู้เสียหายกว่า 50% จะถูกโอนออกจากบัญชีภายในเวลาเพียง 3 นาที ขณะที่เหยื่อใช้เวลาเฉลี่ยถึง 18 ชั่วโมงกว่าจะรู้ตัวและแจ้งความ จากปัญหาดังกล่าว ธปท. ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและแนวทางการแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้สุจริต

ดร.เศรษฐพุฒิ เปิดเผยว่า ความร่วมมือของทุกภาคส่วนทำให้สามารถจัดการกับบัญชีม้าไปแล้วกว่า 2.8 ล้านบัญชี ส่งผลให้ยอดความเสียหายจากกรณีถูกหลอกให้โอนเงินลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วงกลางปี 2568 ความเสียหายอยู่ที่ 5,651 ล้านบาท ลดลงจาก 8,950 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ ธปท. ยอมรับว่ามาตรการระงับธุรกรรมเพื่อสกัดเส้นทางการเงินตาม พ.ร.ก.ไซเบอร์ ได้ส่งผลกระทบต่อผู้สุจริตเป็นวงกว้างกว่าที่ประเมินไว้
ธปท. ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเร่งปรับปรุงกระบวนการ โดยได้สั่งการให้ปลดการระงับธุรกรรมสำหรับผู้สุจริตให้เร็วขึ้น และกำลังพัฒนากลไกใหม่เพื่อลดผลกระทบให้ได้ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า การจะทำให้การเงินดิจิทัลยั่งยืนและปลอดภัย ต้องอาศัย 3 องค์ประกอบหลัก คือ เทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัย กรอบการกำกับดูแลที่เหมาะสม และข้อมูลและการสร้างแรงจูงใจที่ถูกต้อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภูมิใจไทย คอนเฟิร์ม “คนละครึ่ง” มาแน่ ต.ค.นี้ ลั่นอายัดบัญชีม้าไม่กระทบ
- จับตา ธปท. แถลงข่าววันนี้ กรณีอายัดบัญชีธนาคาร ต้องสงสัยเป็นบัญชีม้า
- เปิดความหมาย “บัญชีม้า 5 สี” บัญชีแบบไหน เสี่ยงถูกอายัด แล้วถ้าโดนต้องทำอย่างไรต่อ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: