หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมา ลาสิกขา แห่โพสต์อาลัยประวัติอดีตพระผู้ใหญ่ พระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
กรณีโลกออนไลน์ถึงกับยกให้หนนี้เป็นอีกหนึ่งชัยชนะของพลังโซเชียล เมื่อพระเมือง พลวฑฺโฒ แห่งวัดมัชฌิมวาส ยอมสึก ลาสิกขาจากตำแหน่งแห่งหนในสมณศักดิ์คนเคยห่มเหลืองจนสิ้นแล้ว
ผลพวงทั้งหมดนั้นมีต้นสายปลายเหตุสุดช็อคจิตใจชาวพุทธไม่น้อย เพราะมีรายวานยืนยันว่า อดีตพระผู้ใหญ่รูปนี้ที่เพิ่งสึกไปนั้น พฤติกรรมฉาวสนั่นโดยลักลอบเสพเมถุนตั้งแต่ปี 59 และพยายามใช้อำนาจข่มขู่และฟ้องกลับเหยื่อ จนส่งผลให้เหยื่อเป็นโรคซึมเศร้าต้องทนทุกข์ทรมาน และเสียโอกาสในหน้าที่การงานมาหลายปี
สำหรับต้นสายปลายเหตุอันนำพากระแสโลกโซเชียลแชร์ภาพ หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาสได้ลาสิกขาบทซึ่งสร้างความตกใจให้กับประชาชนอย่างมากนั้น
เนื่องจากหลวงพ่อเมืองเป็นพระเถระชื่อดังในพื้นที่ และมีลูกศิษย์เคารพนับถือจำนวนมากทั้งนักการเมืองและพ่อค้านักธุรกิจ
นอกจากนี้ยังมีรายงาน พระประทิน อัคคธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส มีหนังสือราชการลงวันที่ 11 ก.ย.68 แจ้งเจ้าคณะตำบลลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เรื่องการลาสิกขาของพระโพธิญาณมุนี หรือที่รู้จักกันในนาม “หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ” ซึ่งเป็นพระเถระชื่อดังในพื้นที่
ระบุว่า “ในนามของรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส บ้านดงเมือง ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขอเรียนให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 พระโพธิญาณมุนี (หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ) ได้ทำกาาลาสิกขาอย่างเป็นทางการและเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจากนั้นอดีตพระทราบว่า ตัดสินใจเดินทางออกจากวัดทันที
อย่างไรก็ดีในหนังสื่อไม่ได้ระบุสาเหตุของการลาสิขาบทใดๆ
สำหรับพระโพธิญาณมุนี เกิด 29 ธันวาคม พ.ศ. 2489 ปัจจุบันอายุ 78 ปี อุปสมบทเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ปี 2509 นับเป็นพรรษา 59 ปี สังกัดธรรมยุติกนิกาย ประจำอยู่ที่วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์
ด้านตำแหน่งสมณศักดิ์ พระโพธิญาณมุนี ได้รับการแต่งตั้งในปี 2550 ดำรงตำแหน่ง “พระครูปลัดสุวัฒนเมตตาคุณ” ซึ่งเป็นตำแหน่งพระครูปลัดของพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ต่อมา 5 ธ.ค.2551 ยกฐานะเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญยก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
เปิดสาเหตุ เส้นทางก่อนลงตำแหน่ง “พระราชาคณะชั้นสามัญยก” ฝ่ายวิปัสสนาธุระ
พระโพธิญาณมุนี (หลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ) เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส ถือเป็นพระเถระชื่อดัง ซึ่งได้ถูก “สีกาบี” ร้องเรียนและยื่นฟ้องต่อเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ว่า หลวงพ่อเมือง ได้กระทำความผิดวินัยบัญญัติในเรื่องการล่วงละเมิดพระธรรมวินัยว่าต้อง อาบัติปฐมปาราชิก (เสพเมถุนธรรม) และนิคหกรรมตามที่จะลงแก่พระภิกษุเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ โดยได้ยื่นเรื่องมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 เป็นเวลานานกว่า 9 ปี ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงพ่อเมืองยังคงปฏิบัติหน้าที่พระภิกษุและเป็นที่เคารพนับถือของศรัทธาชาวบ้านต่อเนื่อง
การลาสิกขาของพระเถระผู้มีชื่อเสียงอย่างหลวงพ่อเมือง พลวฑฺโฒ ในช่วงอายุ 78 ปี พรรษา 59 ปี ถือเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งผู้ที่เคารพนับถือท่านมาเป็นเวลานาน.
อีกมุมที่เพจ “Matichon Weekly – มติชนสุดสัปดาห์” เผยอีกมุมโดยย้อนกลับไปพลิกปูมเก่าความเป็นมาในแง่การวางตัวของพระภิกษุไทย มีหลักฐานอ้างอิงว่า แอบฉาวมาตั้งแต่นับนิ้วหวนกลับไปได้กว่า 192 ปี ดังนี้
“พระสงฆ์ทุกวันนี้เป็นพาลปุถุชน ปฏิบัติกันเหลวไหลตามใจ เป็นอาจารวิบัติของคณะสงฆ์ ไม่นำมาซึ่งความเลื่อมใส ถ้าไม่ประพฤติตามธรรมวินัย ให้ต้องตามพุทธบัญญัติ ลาผนวชเสียจะดีกว่า เพราะไม่เป็นการลวงโลก” เนื้อหาจากการเปิดบทวิเคาระห์นี้ ทางเพจยังเหมือนจะพูดถึงสถานการณ์สงฆ์ไทยในปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้วคัดมาจากหนังสือ “การปกครองคณะสงฆ์โดยย่อ และประวัติคณะธรรมยุติกาโดยย่อฯ” ตีพิมพ์ในปี 2478
ในรายละเอียดนั้น ! กล่าวถึงสถานการณ์สงฆ์ไทยช่วงก่อนปี 2376 ซึ่งชวนให้นึกถึงทั้ง “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” และ “วัฏจักรสังคม” ที่หมุนเวียนเจริญแล้วเสื่อมซ้ำๆ เพราะเมื่อเจริญรุ่งเรืองแล้วก็มักประมาท จึงทำให้เสื่อม ซึ่งทำให้ต้องมาช่วยกันฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความเจริญอีกครั้ง
ปรากฏการณ์เสื่อมศรัทธาต่อพุทธศาสนาจากเหตุสีกากอล์ฟไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2325 ช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ก็มีหลักฐานว่าวินัยสงฆ์หย่อนยาน จับเงินทอง สะสมทรัพย์สิน ไม่ศึกษาพระธรรมลึกซึ้ง (ไปอ่านเนื้อหาต้นฉบับตัวเต็มที่นี่)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ชูวิทย์ จวก ฮุนเซน งูพิษรบชายแดน บ่อนทำลาย ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง
- ราชทัณฑ์ เผยทักษิณนอนคุกคืนที่ 3 ความดันสูง-ต้องกินยาประจำตัว
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
