เจาะลึก “คุกลาดยาว” เรือนจำกลางกรุงฯ ไม่ได้มีแค่ที่เดียว มีที่ไหนอีกบ้าง

ไขข้อสงสัย “คุกลาดยาว” เรือนจำย่อยแต่ละแห่งมีหน้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตั้งแต่ “เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ” แดนแรกรับของผู้ต้องขังระหว่างสู้คดี ไปจนถึง “เรือนจำกลางคลองเปรม”
คุกลาดยาว เป็นชื่อที่คนไทยคุ้นเคยและได้ยินผ่านสื่อต่างๆ มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในข่าวที่เกี่ยวข้องกับคดีสำคัญทางการเมืองและคดีอาชญากรรมที่โด่งดัง แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า “คุกลาดยาว” ไม่ใช่ชื่อของเรือนจำเพียงแห่งเดียว แต่เป็นชื่อเรียกโดยรวมของ “กลุ่มทัณฑสถาน” ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางของระบบราชทัณฑ์ไทย
ภายในอาณาบริเวณ “คุกลาดยาว” แห่งนี้ ประกอบไปด้วยเรือนจำและทัณฑสถานที่สำคัญถึง 4 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีภารกิจและทำหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังในประเภทที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เรือนจำกลางคลองเปรม
เรือนจำกลางคลองเปรมเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง มีอำนาจควบคุมผู้ต้องขังชายที่มีกำหนดโทษจนถึงประหารชีวิต ภายในเรือนจำมีการแบ่งพื้นที่ควบคุมออกเป็น 10 แดน และภายนอกอีก 1 แดน เพื่อจำแนกผู้ต้องขังตามความเหมาะสมและประโยชน์ในการควบคุมดูแล รวมถึงการอบรมพัฒนาพฤตินิสัย
นอกจากผู้ต้องขังชายทั่วไปแล้ว เรือนจำกลางคลองเปรมยังเป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องขังข้ามเพศด้วย
การจำแนกผู้ต้องขังข้ามเพศ
เรือนจำได้แบ่งผู้ต้องขังข้ามเพศออกเป็น 3 ประเภท เพื่อการควบคุมที่เหมาะสมและป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้
- ประเภทที่ 1 ผู้ต้องขังที่ผ่านการแปลงเพศโดยสมบูรณ์แล้ว
- ประเภทที่ 2 ผู้ต้องขังที่ยังไม่แปลงเพศ แต่มีลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนแปลงไปจากเพศกำเนิด เช่น การผ่าตัดเสริมหน้าอก
- ประเภทที่ 3 ผู้ต้องขังที่ยังไม่แปลงเพศและร่างกายยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศ จึงต้องแยกการคุมขัง
โครงสร้างการควบคุม 11 แดน
การแบ่งแดนคุมขังภายในเรือนจำทั้ง 11 แดน มีรายละเอียดดังนี้
- แดน 1 (แดนฝึกวิชาชีพ) สำหรับผู้ต้องขังที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 50 ปี เป็นแดนฝึกวิชาชีพงานโรงพิมพ์ และใช้ควบคุมผู้ต้องขังกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มผู้ต้องขังข้ามเพศ
- แดน 2 (แดนความมั่นคง) คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษสูง ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปจนถึงตลอดชีวิต
- แดน 3 สำหรับผู้ต้องขังที่กระทำผิดซ้ำหลายครั้ง มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี
- แดน 4 (แดนฝึกวิชาชีพ) คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี
- แดน 5 (แดนความมั่นคงสูงสุด) เป็นแดนสำหรับผู้ต้องขังที่มีโทษตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปจนถึงโทษประหารชีวิต นอกจากนี้ยังใช้คุมขังผู้ต้องขังลักษณะพิเศษกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่
- ผู้ต้องขังรายสำคัญ
- ผู้ต้องขังในคดีอุกฉกรรจ์
- ผู้ต้องขังคดียาเสพติดและคดีทั่วไปที่มีความร้ายแรง
- ผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ หรือมีแนวโน้มจะหลบหนี
- ผู้ต้องขังที่ต้องแยกควบคุมระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง
- แดน 6 (แดนแรกรับ/ผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ) คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี
- แดน 7 (แดนการศึกษาและพัฒนาจิตใจ) เน้นกิจกรรมด้านการศึกษาและอบรมจิตใจ
- แดน 8 (แดนกักโรค) สำหรับผู้ต้องขังเข้าใหม่เพื่อเฝ้าระวังโรค
- แดน 9 (แดนสูทกรรม) สำหรับผู้ต้องขังที่ทำงานในโรงครัว มีกำหนดโทษไม่เกิน 10 ปี
- แดน 10 (สถานกักกันคลองเปรม) เป็นพื้นที่ควบคุมภายนอก ตั้งอยู่ติดกับเรือนจำ ใช้สำหรับคุมขังผู้ต้องกักกัน
- แดน 11 (แดนพยาบาล) สำหรับผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยและต้องได้รับการดูแลรักษา
หากผู้ต้องขังรายใดก็ตาม รวมถึงผู้ต้องขังข้ามเพศ กระทำผิดวินัย มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ หรืออยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง เรือนจำจะพิจารณาย้ายผู้ต้องขังรายนั้นไปควบคุมที่แดน 5 ซึ่งเป็นแดนความมั่นคงสูงสุด
ผู้ต้องขังที่ถูกแยกควบคุมในแดน 5 จะถูกขังในห้องขังเฉพาะช่วงเวลากลางคืนเท่านั้น ส่วนในเวลากลางวันยังสามารถออกมาทำกิจกรรมตามที่เรือนจำกำหนดได้ เช่น การพบทนายความ หรือการรับการเยี่ยมเยียนจากญาติ

ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
แม้ชื่อจะบ่งบอกถึงการ “บำบัด” แต่ในปัจจุบัน ทัณฑสถานแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นเรือนจำความมั่นคงสูงอีกแห่งหนึ่ง โดยเน้นการควบคุม ผู้ต้องขังในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยเฉพาะ ซึ่งมีอัตราโทษสูง ตั้งแต่โทษจำคุกหลายสิบปีไปจนถึงตลอดชีวิต ถือเป็นเรือนจำที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมผู้กระทำผิดในคดียาเสพติดรายใหญ่
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในสี่เรือนจำหลัก ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย โดยมีภารกิจหลักในการเป็น “แดนแรกรับ” สำหรับควบคุมผู้ต้องขังชายในคดีอาญาทั่วไปที่อยู่ในเขตอำนาจศาลกรุงเทพมหานคร ซึ่งคดีความยังไม่ถึงที่สิ้นสุดตามคำพิพากษาของศาลฎีกา
ภารกิจหลักของเรือนจำแห่งนี้คือการควบคุมตัวผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรมในชั้นต่างๆ ตั้งแต่ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการฝากขังของพนักงานสอบสวน จำเลยที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้น, ศาลอุทธรณ์ ไปจนถึงศาลฎีกา ซึ่งตามหลักกฎหมายแล้ว บุคคลเหล่านี้ยังคงได้รับสิทธิ์เป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด นอกจากนี้ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยังใช้เป็นสถานที่ควบคุมนักโทษเด็ดขาด (ผู้ที่คดีสิ้นสุดแล้ว) ที่มีอัตราโทษจำคุกไม่สูงมากนัก โดยทั่วไปคือไม่เกิน 7-15 ปี ก่อนจะพิจารณาส่งต่อไปยังเรือนจำอื่น
เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2433 บริเวณถนนมหาไชย (ที่ตั้งของสวนรมณีนาถและพิพิธภัณฑ์ราชทัณฑ์ในปัจจุบัน) ก่อนจะมีการย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันในแขวงลาดยาว เขตจตุจักร ในปี พ.ศ. 2534 เพื่อรองรับจำนวนผู้ต้องขังที่เพิ่มมากขึ้น และทำงานร่วมกับเรือนจำอื่นๆ ในพื้นที่ “คุกลาดยาว” เพื่อจำแนกประเภทผู้ต้องขังตามหลักทัณฑวิทยา
ทัณฑสถานหญิงกลาง
ทัณฑสถานหญิงกลาง เป็นเรือนจำหลักที่ใช้ควบคุม ผู้ต้องขังหญิง ทุกประเภทคดีในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยจะรับผู้ต้องขังหญิงทั้งที่ คดียังไม่สิ้นสุด (อยู่ระหว่างพิจารณาคดี) และ นักโทษหญิงเด็ดขาด ที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วทุกอัตราโทษ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “ทักษิณ” นอนเรือนจำคลองเปรมคืนแรก ราบรื่น ไม่มีอาการป่วย
- แดน 5 เรือนจำคลองเปรม คืออะไร รู้จัก ที่ขังเดี่ยวผู้กำกับโจ้ ก่อนจบชีวิต
- กรมราชทัณฑ์ เผย “ทักษิณ” ปรับตัวได้ดี นอนหลับปกติ ทานอาหารได้ครบ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: