ข่าว

“ไอซ์ รักชนก” ชำแหละไส้ใน เบื้องหลัง สตง.คว้าที่ 1 ชี้ แข่งกันแค่ 5 หน่วยงาน

ไอซ์ รัชนก สส.กทม. พรรคประชาชน สับเละกรณี สตง. ได้อันดับ 1 ความโปร่งใส (ITA) ชี้การประเมินมีจุดอ่อน ไม่สะท้อนความจริง และเสียเงิน เสียเวลาเปล่า

นางสาวรัชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้รับรางวัลอันดับ 1 จากการประเมินคุณธรรม และความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่น่าตลก และได้อธิบายถึงเบื้องหลังของคะแนนดังกล่าว

“วันนี้ทุกคนคงได้ขำกันไปแล้ว กับข่าว สตง. คว้าอันดับ 1 ความโปร่งใส เลยจะมาเล่าให้ฟังว่า คะแนน ITA คืออะไร วัดแล้วดี แปลว่าดีจริงไหม ทำไม สตง. ได้ที่ 1

คะแนน ITA คืออะไร ITA (INTEGRITY AND TRANSPARENCY ASSESSMENT) คือคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ที่ประเมินโดยสำนักงาน ปปช. เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติที่เขียนล็อคไว้และให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศ ที่อยากทำให้อันดับและคะแนน CPI หรือ ดัชนีภาพลักษณ์การคอปรัปชั่นดีขึ้น ซึ่งเป็นการวัดที่แข่งอันดับกันทั้งโลก ประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่อันดับ 109 จาก 180 ประเทศทั่วโลก
วัดแล้วดี แปลว่าดีจริงไหม

การเก็บข้อมูล การประเมิน ITA เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 10 กว่าปีเข้าไปแล้ว แต่เรื่องคอรัปชั่นในภาครัฐไม่มีอะไรดีขึ้นเลย สวนทางกับคะแนนของหน่วยงานที่ดีวันดีคืน เพราะอะไร คงต้องไปดูการประเมิน”

นางสาวรัชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน กำลังโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก
ภาพจาก: FB/ รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork

มีการเก็บข้อมูลจาก 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใน : โดยจะให้บุคลากรทุกระดับที่ปฏิบัติงานมาไม่น้อยกว่า 1 ปี ได้แสดงความคิดเห็นต่อคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานตนเอง โดยสอบถาม การรับรู้และความคิดเห็น แล้วใครมันจะไปบอกว่าหน่วยงานตัวเองไม่ดี เผลอ ๆ ผู้บังคับบัญชาจะออกคำสั่งเองเลยด้วยซ้ำกว่าห้ามประเมินออกมาห่วย

ส่วนที่ 2 แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายนอก : โดยให้ผู้รับบริการหรือผู้ติดต่อหน่วยงานภาครัฐในช่วงปีงบประมาณได้แสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐเกือบทั้งหมด รู้กันอยู่แล้วว่าไม่มีใครอยากทำให้คะแนนของใครต่ำลง ก็เหมือนผลัดกันเกาหลัง

ส่วนที่ 3 แบบวัดการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ : เป็นการตรวจสอบระดับการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐที่เผยแพร่ไว้ทางหน้าเว็บไซต์หลักของหน่วยงาน ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่รู้อยู่แล้วว่าจริง ๆ หน่วยงานควรจะต้องเปิดเผยอะไรบ้าง ธรรมภิบาลข้อมูลทำกับแค่ครึ่งเดียว และทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกปิดบัง แอบซ่อนไว้อยู่แล้ว หาในเว็บเท่าไหร่ก็เจอหรอกจ้า แล้วให้พูดกันจริง ๆ จะมีประชาชนจริง ๆ มาประเมินกันสักกี่คน มันก็เป็นการบอกให้ญาติโกโหติกาของคนในนั่นแหละช่วยประเมินให้หน่อย

ปัญหาใหญ่ ๆ คือ หลาย ๆ หน่วยงานมองการประเมิน ITA เป็นภาระมากกว่าโอกาสอันดีในการแก้ปัญหาเรื่องคอรัปชั่น บางหน่วยงานถึงกับลอกข้อมูลจากหน่วยงานอื่น และ ปิดบังข้อมูลที่อาจส่งผลเสียต่อคะแนน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้การแม้จะวัดไปแล้วได้คะแนนดีดีออกมา แต่มันไม่ได้สะท้อนความจริงอะไรเลย

ทำไม สตง. ได้ที่ 1

ITA เป็นการประเมินหน่วยงานรัฐ 8,323 หน่วยทั่วประเทศ แต่ไม่ได้เรียงลำดับตั้งแต่ 1 ไปถึง 8,323 แต่จะจัดอันดับกันเป็นประเภท เช่น จังหวัด ก็แข่งกัน 76 จังหวัด หน่วยงานระดับกรม ก็แข่งกัน 160 หน่วยงาน เทศบาลก็เยอะหน่อย 2,247 เทศบาล องค์กรศาล ก็แข่งกันแค่ 3หน่วยงาน คือ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานยุติธรรม สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และ องค์กรอิสระ ก็แข่งกันแค่ 5 หน่วย สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) , สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (คตง.) , สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

ดังนั้น สตง. ได้ที่ 1 ไม่ต้องแปลกใจ ปีที่แล้ว กกต. ยังได้ที 1 เลย มีเรื่องให้ขำกันทุกปีนั่นแหละ

ที่ฮาจัดเลยคือเมื่อต้นปี เดือนมกราคม สตง. ก็ซัด ปปช. ว่าโครงการประเมินคุณธรรม ITA มีปัญหาเครื่องมือบางส่วนยังไม่ชัดเจน ไม่สามารถแสดงให้เห็นว่าหน่วยงานภาครัฐเป็นหน่วยงานที่มีความโปร่งใสไม่ทุจริตได้จริง แถมด่านโยบาย No Gift Policy “งดรับของขวัญและของกำนัลทุกชนิด” ของ ปปช. ว่าโชว์หร่าหน้าเว็บไซต์ แต่ผู้บริหารองค์กรถูกจับกุมความผิดฐานเรียกรับผลประโยชน์ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

อ่านจบแล้วขำกว่าเดิมปะ ประเทศเราเสียเงินและเสียเวลาไปกับการทำอะไรแบบนี้แหละ ทุกสิ่งอย่างเป็นความตั้งใจอันดีหมด แต่พอทำแบบไทย ๆ มาตรฐานแบบไทย ๆ ก็เป็นอย่างที่ท่านเห็น ไม่ต้องสืบเพราะทุกหน่วยงานประเมินผ่านหมด ได้คะแนน 80-90 ขึ้นกันหมด แต่หันดูสภาพความเป็นจริงดิ คอรัปชั่นประเทศนี้ลดลงไหม ประเมินแล้วได้อะไร

จริง ๆ แล้ว ปปช. ก่อนจะมีหน้าไปประเมินอะไรคนอื่น ควรเริ่มที่ตัวเองก่อน บัญชีทรัพย์สินนักการเมือง ทุกวันนี้เปิดแค่ 180 วัน ถ้าใครอยากดูหลังจากนั้นต้องไปดูที่นนทบุรี อยู่เบตง อยู่เชียงใหม่อยากดูบัญชีทรัพย์สิน สส. บ้านตัวเองต้องหอบสังขารมาที่นนทบุรีนะจ๊ะ แล้วไม่ให้ถ่ายรูป ไม่ให้ถ่ายเอกสารนะ ให้ดูด้วยตาแล้วใช้สมองจำเอา (ซึ่งเป็นผลจากการอยากปกป้องประยุทธ์และประวิตรเพราะไม่อยากให้มีใครมาดูทรัพย์สินได้ เป็นไงล่ะ ที่นี่ประเทศไทย)”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx