ข่าว

นฤมล ดัน ประวัติศาสตร์-หน้าที่พลเมือง ใช้สอบเข้า ม.1 และ ม.4 เทียบชั้นวิทย์-คณิต

รมว.ศึกษาฯ เตรียมดัน วิชาประวัติศาสตร์-หน้าที่พลเมือง เป็นวิชาหลักสำหรับสอบเข้า ม.1-ม.4 เพื่อให้เด็กได้เห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย พร้อมขับเคลื่อนนโยบายแก้หนี้ ลดภาระ และเพิ่มรายได้ครู

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงทิศทางการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนพะเยาวิทยาคม จ.พะเยา ว่าตนได้เปิดโอกาสรับฟังปัญหาจากครูและนักเรียนโดยตรง เพื่อนำมาใช้กำหนดเป็นนโยบาย เนื่องจากตนไม่เคยมีประสบการณ์ในสายงานบริหารการศึกษามาก่อน จึงจำเป็นต้องรับฟังเสียงสะท้อนจากหน้างานจริง

นฤมล กล่าวว่า หนึ่งในโจทย์ใหญ่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคือการขับเคลื่อนการเรียนการสอนในวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำลังดำเนินการอยู่ แต่ตนมีความตั้งใจที่จะยกระดับให้มีความสำคัญยิ่งขึ้น

นฤมล กล่าวว่า “ดิฉันอยากกำหนดให้วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองเป็นวิชาเอก ที่ต้องใช้ในการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อ เช่นเดียวกับวิชาวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ ดังนั้นวิชาเหล่านี้จะต้องไม่ใช่แค่ใช้วัดผลเพื่อเลื่อนชั้น แต่จะต้องถูกนำไปใช้ในการสอบเข้าเรียนต่อทั้งในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วย”

นฤมล ให้เหตุผลว่า เพื่อให้นักเรียนได้เห็นถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนชาติใดในโลก และต้องการให้เด็กได้รู้จักรากเหง้าของระบอบประชาธิปไตยและประวัติศาสตร์เชิงลึกอย่างถูกต้อง ส่วนจะเริ่มบังคับใช้ในปีการศึกษาใดนั้น จะต้องหารือกับ สพฐ. เพื่อประเมินความพร้อมของโรงเรียนต่าง ๆ ก่อน

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ภาพจาก: FB/ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ Prof.Dr.Narumon Pinyosinwat

ลุยต่อแก้หนี้ ลดภาระ เพิ่มรายได้ครู

นฤมล กล่าวต่อไปว่า นโยบายการลดภาระครูและการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูยังคงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องขับเคลื่อนต่อ โดยมีเป้าหมายให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุข ซึ่งในด้านการลดภาระงาน ได้มีการปรับอัตรากำลังครูเกินเกณฑ์ไปเป็นสายสนับสนุน โดยได้จัดสรรให้กลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัยไปแล้วกว่า 600 อัตรา และคาดว่าภายในเดือนสิงหาคมนี้จะจัดสรรเพิ่มได้อีก 1,800 อัตรา

ขณะเดียวกัน การแก้ไขปัญหาหนี้ครูซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ถือเป็นส่วนสำคัญของหนี้ครัวเรือนประเทศ ซึ่งแนวทางการตั้งสหกรณ์กลางของ สกสค. ที่เคยมีมาก่อนนั้นอาจไม่ใช่แผนที่ยั่งยืน จึงจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่ การสร้างรายได้เพิ่มเติมให้แก่ครู ควบคู่กันไป

นฤมล กล่าวว่า การเพิ่มรายได้จะเชื่อมโยงกับการขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน โดยขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังอยู่ระหว่างการปรับแก้หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น การแยกสายงานการทำวิทยฐานะให้ชัดเจน หรือการเปิดโอกาสให้นำผลงานเชิงประจักษ์กลับมาใช้ในการประเมินได้อีกครั้ง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Suriyen J.

นักเขียนบทความข่าว จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาขาปรัชญาและศาสนา มีประสบการณ์กับสำนักข่าวระดับประเทศ ชื่นชอบด้านสังคม การเมือง ต่างประเทศ ทำให้สามารถสร้างคุณค่าผ่านงานเขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้ประโยชน์ครบทุกมิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx