สม รังสี จี้ “ฮุน เซน” ลงจากอำนาจ เผยเกราะกำบังอธิปไตยทรงพลังที่สุด กัมพูชา

สม รังสี ชี้ ฮุน เซน ต้องลงจากอำนาจ จี้ไทยรีบหยุดยั้งเผยเกราะกำบังอธิปไตย กัมพูชาที่ทรงพลังที่สุด คือ ข้อตกลงสันติภาพปารีส
นายสม รังสี นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sam Rainsy เมื่อ 24 ก.ค.โดยแสดงความเห็นกรณีเหตุปะทะชายแดนไทยกับกัมพูชาว่า ประเทศของเขา (กัมพูชา) ต้องป้องกันไม่ให้ “ระบอบฮุนเซน“ เล่นเกมอันตรายกับประเทศไทย
เนื้อหาจากบัญชีโซเชียลของนักเคลื่อนไหวกัมพูชานั้นระบุถึง ข้อตกลงสันติภาพปารีส พ.ศ. 2534 จะเป็นเกราะป้องกันที่ชอบธรรมเพียงหนึ่งเดียวในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา แต่ระบอบของสมเด็จฮุน เซน ไม่ต้องการให้มีการบังคับใช้ข้อตกลงสันติภาพปารีส
ด้วยเหตุผล ! เพราะข้อตกลงนี้กำหนดให้กัมพูชาต้องเคารพสิทธิมนุษยชนและหลักการประชาธิปไตย ซึ่งระบอบฮุนเซนยังคงละเมิดอย่างโหดร้าย “ดังนั้นฮุนเซนจะต้องลงจากอำนาจเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ชอบธรรม สะท้อนเจตจำนงของประชาชนชาวกัมพูชาและเป็นสถาบันเดียวที่สามารถฟื้นฟูประชาธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์สำคัญของกัมพูชาด้วยสันติวิธีและการทูต”
“สถานการณ์เรื้อรังกับประเทศไทยในปัจจุบันไม่ใช่ปัญหาระดับชาติ แต่เป็นเรื่องของการโจรกรรมล้วนๆ เพราะระบอบฮุนเซนสามารถอยู่รอดได้ในปัจจุบันด้วยการติดสินบนจากกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ที่หลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย
“ทางการไทยกำลังกำจัดพวกโจรเหล่านี้ ซึ่งทำให้ฮุนเซนโกรธมาก เพราะการปราบปรามพวกโจรเหล่านี้ถือเป็นการโจมตีระบอบการปกครองของฮุนเซน และเป็นการปิดกั้นโอกาสของรัฐบาล” นายสม รังสี ระบุ
นอกจากนี้ นายสม รังสียังโพสต์อีกว่า อาวุธที่ทรงพลังที่สุดของกัมพูชาไม่ใช่กําลังทหาร แต่เป็นกลไกทางกฎหมายของข้อตกลงปารีส
“อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาไม่ใช่กำลังทหาร หากแต่เป็นกฎหมายระหว่างประเทศและการทูต ผ่านกลไกของข้อตกลงสันติภาพปารีสซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่”
“ข้อตกลงนี้ลงนามโดยตัวแทนจาก 18 ประเทศ รวมถึงสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ 5 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร จีน และรัสเซีย ข้อตกลงนี้กำหนดพันธกรณีให้ประชาคมระหว่างประเทศต้องรับประกันความเคารพต่อเอกราช อธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา”
“ดังนั้น เราจึงเรียกร้องให้มีการประชุมนานาชาติว่าด้วยกัมพูชาที่ปารีสโดยทันที ตามที่ระบุไว้ในข้อ 26 ของข้อตกลง ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่ของเลขาธิการสหประชาชาติและประธานร่วมของการประชุมปารีสปี 1991 ฝรั่งเศส และอินโดนีเซีย”
สม รังสีชี้ว่าเหตุผลที่ “ระบอบอำนาจนิยมของฮุน เซน” ปฏิเสธที่จะใช้เครื่องมือทางการทูตนี้ในการปกป้องดินแดนของชาติ เป็นเพราะข้อตกลงสันติภาพปารีสได้กำหนดให้กัมพูชา ต้องเคารพหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบอบนี้ยังคงละเมิดอย่างโจ่งแจ้ง
“หากเป็นเช่นนั้น ฮุน เซน ต้องก้าวลงจากอำนาจ เพื่อเปิดทางให้แก่รัฐบาลที่ชอบธรรมซึ่งสะท้อนเจตจำนงของประชาชน ซึ่งเป็นองค์กรเดียวที่สามารถฟื้นฟูประชาธิปไตยและปกป้องผลประโยชน์ของชาติผ่านสันติวิธีทางการทูตได้”
แถลงการณ์ยังระบุต่อไปว่าประชาชนชาวกัมพูชาต้องไม่ตกเป็นตัวประกันของระบอบที่กำลังจนตรอก ซึ่งการอยู่รอดของระบอบนี้กำลังถูกคุกคามจากการที่ทั่วโลกกำลังปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรม “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ข้ามชาติ ที่ระบอบนี้พึ่งพิงทางการเงินอยู่
แถลงการณ์ทิ้งท้ายว่า “มันจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง หากปล่อยให้ระบอบที่ขาดความรับผิดชอบนี้ ใช้ประโยชน์จากความตึงเครียดกับประเทศไทยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปสู่ปัญหานอกประเทศ ซึ่งเสี่ยงต่อการทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างร้ายแรง”
“สันติภาพในภูมิภาคจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพปารีสอย่างสมบูรณ์เท่านั้น”.







อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สม รังสี ไม่ยอมแพ้ แม้การบินไทยไม่ให้ขึ้นเครื่องมากรุงเทพ
- ย้อนฟังคลิป ฮุน เซน สั่งล่าคนเห็นต่างในไทย กัมพูชา อ้างเป็นเสียง Ai
- สดุดี 6 ทหารกล้า เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือนเสียชีวิตแล้ว 13 ราย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: