จับตา โฉมหน้า ม็อบไล่นายกฯ รวมคนการเมือง-อดีตบิ๊กทหาร

จับตาม็อบไล่นายกฯ 28 มิถุนายน จัดชุดใหญ่ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมเดิม กับอดีตบิ๊กทหาร รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายของ รัฐบาลแพทองธาร กับมรสุมจากคลิปเสียง และความขัดแย้งกับภูมิใจไทย
สถานการณ์ทางการเมืองทวีความร้อนแรงขึ้นทุกขณะ โดยทุกสายตากำลังจับจ้องไปยังการชุมนุมใหญ่ภายใต้ชื่อ ม็อบรวมพลังแผ่นดิน ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการท้าทายเสถียรภาพของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ครั้งสำคัญ ท่ามกลางมรสุมการเมืองที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง ทั้งจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน เซน และความขัดแย้งกับอดีตพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย
แม้จะเผชิญแรงกดดันอย่างหนัก แต่นายกฯ ยังคงแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ โดยยืนยันว่าการพูดคุยกับผู้นำกัมพูชาไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ และยังคงเดินหน้าบริหารประเทศต่อไป ทั้งการมอบหมายให้กองทัพใช้มาตรการเด็ดขาดในการควบคุมชายแดน 7 จังหวัด ควบคู่ไปกับการพยายามผลักดันการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร 2 เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาของประเทศ

การชุมนุมในครั้งนี้ มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มการเมืองหลากหลายกลุ่มที่ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการขับไล่รัฐบาล โดยกลุ่มผู้ชุมนุมดั้งเดิม เป็นการผนึกกำลังของกลุ่มมวลชนที่เคยเคลื่อนไหวในอดีต เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กปปส. โดยมีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และกองทัพธรรมของกลุ่มสันติอโศก เป็นแกนนำหลัก
มีรายงานว่าการชุมนุมจะได้รับการสนับสนุนจากอดีตบิ๊กทหารหลายรุ่น โดยเฉพาะอดีตนายทหารจากเตรียมทหารรุ่น 12 (ตท.12) ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงอดีตข้าราชการพลเรือนระดับสูงหลายคน ที่จะเข้าร่วมเพื่อแสดงพลังปกป้องอธิปไตย

ขณะที่การเมืองบนท้องถนนกำลังก่อตัว พรรคภูมิใจไทยซึ่งเพิ่งถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ก็ได้เปิดเกมรุกในสภาฯ ทันที โดยมีรายงานว่าเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 151 เพื่อซักฟอกรัฐบาลในประเด็นคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวที่อ้างว่ามีนักการเมืองชื่อย่อ “น.หนู” จากพรรคการเมืองหนึ่งให้การสนับสนุนด้านเสบียงแก่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกด้วย
ขณะเดียวกันพรรคประชาชน แม้จะไม่ได้ประกาศเข้าร่วมการชุมนุมบนท้องถนน แต่ยังคงเดินหน้ากดดันรัฐบาลในแนวทางของตนเอง โดยแกนนำพรรคหลายคนรวมถึงนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวรบที่สร้างแรงกดดันให้รัฐบาลเช่นกัน
ด้านแกนนำผู้จัดชุมนุมอย่าง นายสมชาย แสวงการ ออกมายืนยันว่า การรวมตัวในครั้งนี้ไม่ใช่ ม็อบการเมือง แต่เป็นการแสดงพลังของภาคประชาชนที่ต้องการปกป้องอธิปไตยและให้กำลังใจทหาร โดยจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ใด และปฏิเสธข่าวลือที่จะมีการโจมตีบุคคลสำคัญทางการเมืองบนเวที
สถานการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จึงอยู่ในภาวะที่เปราะบางอย่างยิ่ง การเคลื่อนไหวของกลุ่ม รวมพลังแผ่นดิน จะสามารถระดมมวลชนได้มากน้อยเพียงใด และรัฐบาลจะรับมือกับแรงกดดันจากทุกทิศทางได้อย่างไร จะเป็นตัวชี้วัดเสถียรภาพและอนาคตของรัฐบาล แพทองธาร ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หมอวรงค์ ย้ำจุดยืน หมดเวลานายกฯ อิ๊งค์ ปลุกใจม็อบ 28 มิ.ย.เจอกันอนุอนุสาวรีย์ชัยฯ
- เช็กเส้นทาง เลี่ยงรถติด พื้นที่ชุมนุม อนุเสาวรีย์ฯ 28 มิ.ย.นี้
- ปานเทพ เผย “มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน” บริจาคทะลุ 15 ล้าน เตรียมชุมนุมใหญ่ 28 มิ.ย.
ติดตาม The Thaiger บน Google News: