เปิดประวัติศาสตร์ราชวงศ์กัมพูชา ไขปริศนาพระพักตร์ของ กษัตริย์สีหมุนี ที่คล้ายชาวตะวันตก ซึ่งมีที่มาจากสายเลือดฝรั่งเศส-อิตาลีของพระราชมารดา และความสัมพันธ์อันยาวนานกับราชวงศ์ไทย
หลายครั้งที่คนไทยเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบรมวงศานุวงศ์แห่งกัมพูชา อาจเกิดความสงสัยว่าเหตุใดบางพระองค์จึงมีพระพักตร์หรือหน้าตาที่ดูคล้ายชาวตะวันตก ไม่เหมือนชาวเขมรโดยทั่วไป ซึ่งคำตอบของเรื่องนี้ซ่อนอยู่ในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและสายเลือดที่ซับซ้อนของราชวงศ์กัมพูชาที่สืบทอดมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ
สำหรับ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์รัชกาลปัจจุบันแห่งกัมพูชา สาเหตุหลักที่ทรงมีพระพักตร์คล้ายชาวตะวันตกนั้นสืบเนื่องมาจากสายพระโลหิตฝั่งพระราชมารดาโดยตรง นั่นคือ พระมหาวีรกษัตรีย์ นโรดมนโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา ซึ่งพระองค์มีเชื้อสายผสมยุโรปถึง 3 ชาติ คือ ฝรั่งเศส คอร์ซิกา (ฝรั่งเศส) และอิตาลี ทำให้พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ทรงได้รับสืบทอดพระลักษณะคล้ายกับชาวตะวันตก จากผู้เป็นพระวรราชมารดา
หากกล่าวถึงพระราชมารดาของ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี นั้น พระมหาวีรกษัตรีย์นโรดม นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา ประสูติเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2479 ณ เมืองไซ่ง่อน (ปัจจุบันคือ โฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม) ในยุคที่ยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส มีพระนามเดิมว่า Paule Monique Izzi (โปล มอนิก อิซซี) พระราชบิดามีพระนามว่า Jean-François Izzi เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายอิตาลี ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของธนาคาร Crédit Foncier ที่ไซ่ง่อน ณ ขณะนั้น
ส่วนพระราชมารดามีพระนามว่า Pomme Peang เป็นหญิงชาวกัมพูชาเชื้อสายจีน-เขมร เกิดในกรุงพนมเปญ และเคยเป็นพระชายาลำดับที่ 3 ของเจ้าชายนโรดม ดวงจักร ทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ในปี 2498 และทรงได้รับการประกาศให้เป็นสมเด็จพระอัครมเหสี เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์
การมีเชื้อสายผสมไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในราชวงศ์กัมพูชา หากมองไปยังพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์อื่น เช่น หม่อมเจ้า นโรดม จักราวุธ ประธานพรรคฟุนซินเปกองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระโอรสในสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ก็ทรงมีสายเลือดผสมหลากหลายเช่นกัน โดยพระมารดาของพระองค์เจ้านโรดม มารี รณฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า เอง มารี (Eng Marie) มีพระบิดาเป็นผู้มีเชื้อสายจีน เอง เมียะฮ์ (Eng Meas) และพระมารดาเป็นชาวมุสลิมเชื้อสายจาม ที่ชื่อว่า ซาราห์ เฮย์ (Sarah Hay) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมสัมพันธ์กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในภูมิภาคมาตั้งแต่อดีต
นอกจากสายเลือดชาติตะวันตกและเอเชียอื่น ๆ แล้ว ราชวงศ์กัมพูชายังมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติที่ใกล้ชิดกับราชวงศ์ไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ที่กัมพูชาเป็นประเทศราชของสยาม ความสัมพันธ์นี้ใกล้ชิดถึงขนาดที่ พระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ (พระปัยกาหรือปู่ทวดของกษัตริย์สีหมุนี) เคยได้รับการอุปถัมภ์จากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 และได้ประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในกรุงเทพมหานคร ก่อนที่กัมพูชาจะตกไปอยู่ภายใต้อาณัติของฝรั่งเศสในสมัยรัชกาลที่ 5
ความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ชัดเจนระหว่างสองราชวงศ์ สามารถสืบย้อนไปได้ถึง เจ้าจอมมารดาเอี่ยมบุษบา ซึ่งเป็นพระเทียด (ทวดหญิง) ของกษัตริย์สีหมุนี โดยเจ้าจอมมารดาเอี่ยมบุษบาเคยเป็นภรรยาในสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ และท่านยังเป็นพี่สาวของท้าวศรีสุนทรนาฏ ซึ่งเป็นทวดของ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ กษัตริย์สีหมุนีจึงทรงนับเป็นพระญาติกับสมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ของไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จัก เจ้านโรดม สีหมุนี ชายหล่อที่สุดในกัมพูชา ประมุขที่รักของปวงชน
- ฮุน มาเนต เปรียบ กัมพูชาเป็นงู อยู่เงียบๆ กัดถึงตาย เพจดังแซะ พิษงูหรือหมาบ้า
- ฮุนเซน ปล่อยภาพ “นายกฯ อิ๊งค์” กินข้าว-ดูห้องนอน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ในบ้านอังเคิล
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
