
สวัสดีปีใหม่ไทย สรงน้ำพระที่บ้าน วันไหน กี่โมง รับสิริมงคลสงกรานต์ 2568 ฉบับวิถีสงบ ละอองเย็นแห่งศรัทธา
ท่ามกลางไอแดดระอุของเดือนเมษายน เสียงหัวเราะ ละอองน้ำที่สาดกระเซ็นไปทั่วทุกหัวระแหง คือภาพจำของ “สงกรานต์” เทศกาลแห่งความชุ่มฉ่ รับการเปลี่ยนผ่านสู่ปีใหม่ไทย แต่สำหรับบางท่าน ที่หัวใจโหยหาความสงบและแก่นแท้ของประเพณี การหลีกเร้นจากความพลุกพล่านภายนอก สู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในบ้านตนเอง เพื่อประกอบพิธีสรงน้ำพระ ก็เป็นทางเลือกที่เปี่ยมด้วยความหมายและสิริมงคลไม่แพ้กัน
สงกรานต์ ปี 2568 นี้ หากคุณคือคนหนึ่งที่ปรารถนาจะเชื่อมต่อกับรากเหง้าทางวัฒนธรรมอย่างสงบงาม เชิญมาร่วมเดินทางผ่านตัวอักษร เพื่อค้นพบวิธีการสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน อันเป็นประหนึ่งการเปิดประตูต้อนรับความสุข ความเจริญ และชำระล้างสิ่งเก่าเพื่อก้าวสู่สิ่งใหม่อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องก้าวเท้าออกจากชายคาเลยแม้แต่ก้าวเดียว
ขั้นตอนบรรจงเตรียม สงน้ำพระในบ้าน เครื่องสักการะจากใจ
1. พระพุทธรูป หัวใจสำคัญของพิธี อัญเชิญพระพุทธรูปประจำบ้านที่ท่านเคารพสักการะ อาจจะเป็นองค์เล็กหรือองค์ใหญ่ก็ได้ตามแต่ศรัทธา
2. เลือกสถานที่อันควร มุมสงบภายในบ้าน อาจเป็นโต๊ะสะอาด หรือจัดพื้นที่บนหิ้งพระเดิมให้กว้างขวางขึ้น ปูด้วยผ้าขาวสะอาดตา
3. เตรียมขันเงิน ขันทองเหลือง หรือภาชนะที่สะอาด เหมาะสม สำหรับรองรับน้ำที่สรงองค์พระ
4. น้ำปรุงหัวใจ นี่คือส่วนที่ขาดไม่ได้ เตรียมน้ำสะอาด อาจเป็นน้ำฝน (หากมี) หรือน้ำดื่มสะอาด ผสมด้วยน้ำอบไทย หรือน้ำปรุง ที่มีกลิ่นหอมจรุงใจ อาจเสริมด้วยแป้งร่ำ หรือ แป้งดินสอพอง เล็กน้อย เพื่อความเข้มข้นตามแบบโบราณ
5. กลีบดอกไม้บูชาหอมนานาพรรณ เช่น ดอกมะลิ เหลืองอร่ามของดาวเรือง กลีบกุหลาบ หรือดอกไม้มงคลอื่นๆ ที่หาได้ ลอยลงในน้ำปรุง เพิ่มทั้งความงามและกลิ่นหอมธรรมชาติ
6. ผ้าสะอาดผืนน้อย สำหรับเช็ดทำความสะอาดองค์พระหลังสรงน้ำ (ถ้าต้องการ)
จรดใจสรงน้ำพระ ขั้นตอนแห่งความสงบ
สรงน้ำพระวันสงกรานต์ มักเริ่มทำวันที่ 13 เมษายน ส่วนกี่โมง สามารถยึดเวลาตามสะดวก กี่โมงก็ได้ แต่เป็นช่วงเช้าก็จะดีมาก
1. ค่อยๆ อัญเชิญพระพุทธรูปออกจากหิ้งหรือที่ประดิษฐานเดิม มายังพื้นที่ที่เตรียมไว้ด้วยกิริยาสำรวม
2. ตั้งจิตอธิษฐาน จุดธูปเทียน (ถ้าสะดวกและปลอดภัย) กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย และกล่าวคำขอขมา หากได้ล่วงเกินสิ่งใดไป ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ จากนั้น ตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งดีงามที่ปรารถนาในวาระปีใหม่ไทยนี้
3. บรรจงสรงน้ำ ใช้ขันค่อยๆ ตักน้ำอบ น้ำปรุงที่เตรียมไว้ รดลงบนองค์พระพุทธรูปอย่างช้าๆ และนุ่มนวล โดยส่วนใหญ่นิยมเริ่มสรงตั้งแต่พระเศียร (ศีรษะ) ไล่ลงมา หรือบางท่านอาจเน้นสรงที่พระหัตถ์ (มือ) หรือส่วนอื่นๆ ก็ได้ตามความเชื่อ หลีกเลี่ยงการราดรดลงบนพระพักตร์ (ใบหน้า) โดยตรง ให้สายน้ำไหลผ่านจากส่วนบนลงมา ระหว่างสรง ให้ระลึกถึงการชำระล้างสิ่งไม่ดี กิเลส ความขุ่นข้องหมองใจ ให้ไหลไปกับสายน้ำ เหลือไว้แต่ความสะอาดบริสุทธิ์
4. กล่าวคำมงคล ขณะสรงน้ำ สามารถกล่าวคำอวยพร ขอพรให้ตนเอง ครอบครัว และสรรพสัตว์มีความสุขความเจริญ
5. เช็ดทำความสะอาด หากต้องการ สามารถใช้ผ้าสะอาดผืนเล็กซับน้ำเบาๆ ตามองค์พระ แต่หลายท่านนิยมปล่อยให้แห้งเองตามธรรมชาติ
6. เมื่อเสร็จสิ้น ค่อยๆ อัญเชิญพระพุทธรูปกลับไปประดิษฐานยังหิ้งพระหรือที่เดิม จัดวางให้เรียบร้อยสวยงาม
เคล็ดไม่ลับ น้ำที่เหลือจากการสรงพระ ถือเป็นน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ สามารถนำไปประพรมบนศีรษะของตนเองและสมาชิกในครอบครัว หรือนำไปรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้ใหญ่ที่เคารพภายในบ้าน เป็นการสืบทอดสายใยแห่งความกตัญญูและความรักในครอบครัว
บทสวดมนต์สรงน้ำพระ
ตั้งนะโม 3 จบ และกล่าว “อิมินา สิญฺจะเนเนวะ โรโค โสโก อุปัททะโว นิพพันตุ สัพพะโส เอเต สุขี โหนตุ นิรันตะรัง” แปลว่า เดชะ ข้าสรงน้ำ พระชุ่มฉ่ำตลอดกาล ทุกข์โศกโรคภัยพาล อันตรธาน เป็นสุข เทอญ
การสรงน้ำพระที่บ้าน แม้จะเรียบง่าย ปราศจากเสียงอึกทึกครึกโครม แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลังอันอ่อนโยน เป็นช่วงเวลาที่เราได้กลับมาสำรวจจิตใจตนเอง ได้แสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยจิตที่สะอาดและเป็นกุศล กลิ่นน้ำอบที่หอมฟุ้ง กลีบดอกไม้ที่ลอยละล่อง และสัมผัสของสายน้ำเย็นที่รินรด คือประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่นำมาซึ่งความสงบอย่างแท้จริง
อานิสงส์แห่งการเริ่มต้น ผลบุญหนุนนำชีวิตในวันสงกรานต์
การทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน (เช่น ตักบาตร ถวายสังฆทาน) การรักษาศีล หรือการสรงน้ำพระ เปรียบเสมือนการชำระล้างมลทินหรืออกุศลกรรมที่อาจติดตัวมา ให้เบาบางลง เปิดพื้นที่ให้สิ่งดีงามและความเป็นสิริมงคลใหม่ๆ ได้เข้ามาในชีวิต ทำให้การเริ่มต้นปีใหม่เป็นไปอย่างปลอดโปร่ง ปราศจากอุปสรรคที่มองไม่เห็น
อานิสงส์ของการให้ทานและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เชื่อว่าจะส่งผลให้ชีวิตมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสน มีกินมีใช้ มีโชคลาภเข้ามา การทำบุญด้วยจิตที่เบิกบานยังนำมาซึ่งความสุขใจอย่างแท้จริง ทำให้ชีวิตโดยรวมมีความราบรื่นและเจริญก้าวหน้า
การปล่อยนกปล่อยปลา หรือการช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ถือเป็นการให้ชีวิต ให้ทานอันยิ่งใหญ่ เชื่อว่าจะส่งผลให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีอายุยืนยาว การมีจิตใจที่ผ่องใสจากการทำบุญก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพกายเช่นกัน
ในวันครอบครัว 2568 การแสดงความกตัญญูต่อบุพการีและผู้ใหญ่ ด้วยการรดน้ำดำหัวขอพร รวมถึงการทำบุญร่วมกันในครอบครัว ช่วยเสริมสร้างความรักความผูกพัน ทำให้ครอบครัวมีความสมัครสมานสามัคคี อยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ได้รับพรและความเมตตาจากผู้ใหญ่เกื้อหนุน
การฟังธรรม หรือการตั้งจิตทำสมาธิในช่วงวันสงกรานต์ ช่วยให้จิตใจสงบ เกิดสติและปัญญา สามารถมองเห็นปัญหาต่างๆ ตามความเป็นจริง และหาทางแก้ไขได้อย่างถูกต้อง ทำให้ดำเนินชีวิตได้อย่างไม่ประมาท
ผู้ที่หมั่นสร้างบุญกุศล มีเมตตาธรรม ย่อมเป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง รวมถึงเหล่าเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะช่วยคุ้มครองปกปักรักษา ให้แคล้วคลาดจากภยันตรายต่างๆ
สงกรานต์ 2568 นี้ ลองเปลี่ยนจากการเผชิญความวุ่นวายภายนอก มาสร้างพื้นที่แห่งความสุขสงบภายในบ้าน ด้วยการสรงน้ำพระอย่างตั้งใจ แล้วคุณจะพบว่า สิริมงคลที่แท้จริง อาจเริ่มต้นง่ายๆ จากสองมือและหัวใจที่เปี่ยมศรัทธาของเรานี่เอง…สวัสดีปีใหม่ไทยครับ