ร.ต.ท. ซิ่งเก๋งชนท้าย จยย. ยายวัย 78 ดับสลดกลางถนน ญาติคาใจ ไร้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ หวั่นคดีไม่เป็นธรรม
อุดรธานี – เกิดเหตุสลดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 เม.ย. 68 ร.ต.ท. นายหนึ่ง สังกัด สภ.หนองวัวซอ ขับรถเก๋งพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของยายวัย 78 ปี เสียชีวิตคาที่ บริเวณหน้าวัดขันธปราณี ถนนหลวงสาย 2315 หนองวัวซอ-ดงหมากไฟ จ.อุดรธานี ท่ามกลางความคลางแคลงใจของญาติ หลังตำรวจ ณ จุดเกิดเหตุ อ้างไม่มีเครื่องเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ ต้องส่งตรวจเลือดแทน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากคู่กรณีเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 11 เม.ย. 68 ขณะที่ นางติ๋ม (นามสมมติ) อายุ 78 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเยี่ยมหลานที่เพิ่งเดินทางมาจากไต้หวัน และกำลังจะเลี้ยวขวาเข้าซอยบ้านพัก ซึ่งอยู่ตรงข้ามวัดขันธปราณี ได้มีรถยนต์เก๋งสีขาว ซึ่งขับขี่โดย ร.ต.ท. นายหนึ่ง (ไม่เปิดเผยชื่อ) สังกัด สภ.หนองวัวซอ ขับมาจากทางโรงพักด้วยความเร็วสูง พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของนางติ๋มอย่างจัง
แรงชนส่งผลให้นางติ๋มกระเด็นตกจากรถ ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล สภาพรถจักรยานยนต์พังยับเยิน กระเด็นห่างจากจุดชนราว 10 เมตร ส่วนรถเก๋งของ ร.ต.ท. คู่กรณี ยังเสียหลักพุ่งไปชนกับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ที่ขับสวนทางมาได้รับความเสียหาย ขณะที่ ร.ต.ท. ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน
นายโชคทวี อายุ 59 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต และ น.ส.นิภาวรรณ อายุ 31 ปี หลานสาวผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ เปิดเผยด้วยความเสียใจและกังวลว่า ขณะเกิดเหตุ ย่ากำลังจอดรถบริเวณเส้นเหลืองกลางถนนเพื่อรอเลี้ยวเข้าซอย แต่ถูกรถเก๋งที่ขับมาเร็วมากชนท้ายอย่างแรง หลังเกิดเหตุ พ่อได้ขอให้ตำรวจคู่กรณีเป่าแอลกอฮอล์ แต่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์แจ้งว่าไม่มีเครื่องเป่า ทำให้เกิดความคลางแคลงใจ จึงยืนยันขอให้มีการเจาะเลือดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์แทน ซึ่งได้ทำการเจาะเลือดทั้ง 3 ฝ่าย คือ ร.ต.ท. คู่กรณี, นางติ๋ม ผู้เสียชีวิต และคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ส่งไปตรวจที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี
“เราเป็นชาวบ้านธรรมดา คู่กรณีเป็นตำรวจ ก็กลัวว่ารูปคดีจะออกมาไม่เป็นธรรม อาจถูกระบุว่าเป็นประมาทร่วม ทำให้เสียสิทธิ์ในการเรียกร้องความเป็นธรรมและการเยียวยา ที่กังวลมากคือตอนแรกตำรวจบอกไม่มีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ จนพ่อต้องตามไปเฝ้าถึงโรงพยาบาลเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเจาะเลือดตรวจจริง” น.ส.นิภาวรรณ กล่าว
บรรยากาศที่วัดขันธปราณี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนางติ๋ม เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติพี่น้องและชาวบ้านมาร่วมงานและให้กำลังใจจำนวนมาก น.ส.นิภาวรรณ เล่าเพิ่มเติมว่า ปกติย่าเป็นคนแข็งแรง ขยัน ไม่ชอบอยู่นิ่ง แม้วัย 78 ปี ก็ยังขี่รถไปไหนมาไหนกับหลานที่พิการทางสมอง ไปหาเก็บมะพร้าว เก็บดอกมะลิมาขาย ไม่คิดว่าเทศกาลสงกรานต์ที่ควรจะเป็นวันรวมญาติ กลับต้องมาจัดงานศพให้ย่าแทน
ด้าน พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตั้งแต่คืนเกิดเหตุ และได้รับปากว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเจาะเลือดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดส่งตรวจแล้ว ซึ่งต้องรอผลการตรวจจาก สสจ.อุดรธานี เมื่อผลออกมาจะดำเนินการตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมาและยุติธรรมที่สุด เบื้องต้น ตำรวจ สภ.หนองวัวซอ ได้นำพวงหรีดในนาม ผกก. มามอบให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจแล้ว
ขณะเดียวกัน นายโชคทวี ลูกชายผู้ตาย กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 12 เม.ย. ลูกสาวของ ร.ต.ท. คู่กรณี ได้นำเงินจำนวน 20,000 บาท มามอบให้เพื่อช่วยค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ เนื่องจาก ร.ต.ท. ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยอาการบาดเจ็บซี่โครงหัก และแจ้งว่าหากแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล จะเดินทางมาร่วมงานศพและขอขมาผู้เสียชีวิตต่อไป อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยังคงยืนยันต้องการความยุติธรรม และรอผลการตรวจเลือดเพื่อความชัดเจนในคดีต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลูกชาย เปิดบันทึกสุดท้ายของแม่ 82 ซีวิคแดง ตีนผีซิ่งชนดับ ตร.ยังจับไม่ได้สักท
- คลิป แท็กซี่ชนแล้วหนี ปาดหน้า ผู้โดยสารหัวแตก โซเชียลเร่งแชร์ล่าตัว
- กล่องใส่เพนกวินเป็นเหตุ ชนคันบังคับ ทำเฮลิคอปเตอร์ตกในแอฟริกาใต้
ข่าวล่าสุด
