เคลียร์ชัด “ใบสั่ง” ในคุกคืออะไร ชีวิตจริงกับหนังเหมือนกันหรือไม่?

ไขข้อสงสัย ใบสั่งคืออะไร ? ศัพท์ที่คนคุกรู้กัน พร้อมเปิดข้อมูลลอบสังหารในเรือนจำจาก “หรั่ง พระนคร” และ “พี่ยุทธ บางขวาง”
โอกาสที่ภาพยนตร์สุดดิบแดนสยาม “วัยหนุ่ม 2544″ เข้าสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม Neflix เมื่อวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยผลงานจากผู้กำกับ พุฒิ-พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของหนังไทยระดับปรากฏการณ์อย่าง “4KINGS” ทั้งสองภาค โดยโปรเจกต์ใหญ่รับต้นปีที่ทำกับค่ายหนัง “เนรมิตรหนัง ฟิล์ม” ใช้เวลาเปิดตัวเพียงแค่ 24 ชม.ทะยานขึ้นแท่นอันดับ 1 ยอดรับชมสูงสุดทันทีของแพลตฟอร์มดูหนังเจ้าดัง
ชาวเน็ตพร้อมใจจุดกระแสช่วยกันไขปริศนาลับถึงความเป็นอยู่ของนักโทษในแต่ละซีนว่าจริงแท้อย่างไร เนื่องจากมีหลายครั้งที่ตัวละครเอกพากันพูดคำศัพท์ฉบับคนคุกแบบจัดเต็มตลอดเรื่อง
ด้วยเหตุนี้ ทีมงานไทยเกอร์จึงอาสาขอเกาะกระแสพาทุกท่านไปทำความเข้าใจ “ใบสั่ง” หนึ่งในศัพท์สำคัญของซีนไคลแม็กซ์ว่าคืออะไร และวิถีชีวิตหลังกรงขังว่าอดีตกับปัจจุบันแตกต่างกันและเหมือนกับในหนังหรือไม่
ตอบชัด “ใบสั่ง” ในคุกคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ?
ก่อนจะเข้าใจความหมายของคำว่าใบสั่ง ต้องเล่าเนื้อเรื่องเพื่อปูทางการอธิบายเสียก่อน ภาพยนตร์ “วัยหนุ่ม” ว่าด้วยชีวิตของสองนักโทษใหม่อย่าง “เผือก” หนุ่มเด็กช่างที่เผลอลั่นไกสังหารอันตพาลเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และ “ฟลุ๊ค” หนุ่ม LGBTQ ที่ถูกแฟนยัดยาเสพติดใส่
ต่อมา “เบียร์” พ่อบ้านคลองเตย (หมายถึงนักโทษหัวโจกในโซนคุกนั้น ๆ) ตัดสินใจใช้ “ใบสั่ง” เพื่อลอบสังหารแก๊งพ่อบ้านฝั่งธนบุรี เนื่องจาก “เผือก” ย้ายข้างไปอยู่ฝั่งนั้น ซึ่งใบสั่งคือการนำใบมีดโกนที่เป็นเหล็กมาบดให้ละเอียดแล้วนำไปใส่ในอาหารของฝั่งคู่อริแบบเนียน ๆ หากเหยื่อเผลอกินเข้าไปตามที่คาดไว้ จะทำให้เศษใบมีดในอาหารบาดลำคอ หลอดอาหาร หรือกระเพาะจนมีเลือดออกภายใน ซึ่งอันตรายถึงชีวิต แถมถ้าทำให้อ้วกออกมา เศษใบมีดจะยิ่งบาดสวนทางจนทรมาณยิ่งกว่าเดิม
วิธีนี้มีข้อดีสำหรับฝั่งคนใช้คือตรวจสอบยาก เพราะลักษณะการตายจะเหมือนอุบัติเหตุทางอาหารมากกว่าการทำร้ายตรง ๆ ขณะที่ข้อเสียคือกำหนดเป้ายาก เพราะถ้าไม่แอบไปโรยผงมีดโกนในจานอาหารเหยื่อตรง ๆ ผลลัพธ์น่าสลดอาจไปออกที่นักโทษคนอื่นก็เป็นได้
สรุป : ใบสั่งคือ “การสังหาร” ภายในคุกรูปแบบหนึ่ง โดยนำใบมีดโกนเหล็กมาบดให้ละเอียดเป็นผง จากนั้นนำไปโปรยในอาหารหรือทำอย่างไรก็ได้ให้เหยื่อกินเข้าไป
ชีวิตคนคุกใน “วัยหนุ่ม” เหมือนกับของจริงหรือไม่?
เซ็ตติ้งในภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นชีวิตนักโทษช่วงปี 2544 ซึ่งไทม์ไลน์โลกความเป็นจริงจะตรงกับกรณีของนายอัครินทร์ ปูรี หรือ “หรั่ง พระนคร” อดีตนักโทษเรือนจำที่ใช้ชีวิตหลังลูกกรงราว 10 ปี ติดคุกตั้งแต่อายุ 15 จากคดีลักทรัพย์เพราะไม่มีเงินไปซื้อยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ หรั่ง เคยเล่าว่า ชีวิตโดยรวมของคนคุกในยุคนั้นเหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อนที่มีเจ้าถิ่นคุมอยู่ มีการทำร้ายกันหากผลประโยชน์ไม่ลงตัวหรือไม่ชอบหน้านักโทษด้วยกัน โดยขาใหญ่ในตารางก็จะมีบริวารต่าง ๆ คอยรับใช้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ซามูไร”
ซามูไร คือ นักโทษที่รับจ้างหรือคนในสังกัดของเจ้าถิ่นนั้น ๆ ที่รับหน้าที่คอยไล่จัดการอริที่ผู้จ้างไม่ชอบ ด้วยการแอบเอาของมีคมที่ลับเอาเองไปเสียบแทงเป้าหมายตามคำสั่งของผู้เป็นนายหรือจะใช้วิธีอย่างอื่นก็ได้ (ส่วนมากเป็นแทง ไม่ค่อยใช้ใบสั่ง) ขณะเดียวกันคำว่า “ใบสั่ง” ที่เป็นการลอบฆ่าข้างต้น ยังมีความหมายตรงตัวว่าเป็นการสั่งให้คนในคุกกระทำการอะไรบางอย่างตามที่ผู้สั่งต้องการ โดยมี 2 ประเภทคือ
- ใบสั่งข้างนอก : เคสนี้มักจะเป็นผู้มีอิทธิพลภายนอกที่ฝากให้คนในคุกตามที่ตนต้องการ เช่น ส่งใบสั่งให้จัดการ นาย ก. ให้หน่อย เพราะคนนี้ไปโกงเงินเขามา หรือ ช่วยดูแลนาย ข. ให้ที เพราะเป็นคนสำคัญขององค์กรอาชญากรรม
- ใบสั่งภายใน : วิธีนี้มักจะเป็นการส่งสัญญาณให้คนคุกในอีกเรือนจำหนึ่งรับสารบางอย่างไปผ่านจดหมายน้อย โดยมีโค้ดลับของตัวเอง เช่น ช่วยเอ็นดู นาย ค. ให้มาก ๆ หน่อยนะ (เจตนาคือช่วยกระทืบหมอนี่ให้ที) ลักษณะนี้
ดังนั้นคำว่า “ใบสั่ง” จะแตกต่างกันออกไปตามบริบทของ “ผู้สั่ง” ซึ่งในกรณีในหนังคือการลอบสังหารโดยใช้ใบมีดโกนบดแล้วแอบให้เหยื่อกิน หรือไม่ก็แอบเอายาพิษไปฉีดเข้ากล่องนม-ถุงแกงหลอกให้เหยื่อเผลอกินได้เหมือนกัน
แต่ถ้าชีวิตจริงอาจเป็นการส่งสารบางอย่างไปถึงคนในให้ช่วยกระทำการนั้น ๆ โดยมีค่าตอบแทนแล้วแต่กันไปแทน

ย้อนดูอีกมุมหนึ่ง นายอรรถยุทธ พวงสุวรรณ หรือ “ยุทธ บางขวาง” อดีตพี่เลี้ยงนักโทษ เคยเล่าชีวิตเรือนจำในยุคตนผ่านโหนกระแสหลังเกิดกรณี “อดีตผู้กำกับโจ้” หรือ นายธิติสรรค์ อุทธนผล ผู้ต้องหาคดีถุงดำที่จบชีวิตตัวเองในห้องขังเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา
ยุทธ เล่าว่า ตามกฎนั้นผู้คุมห้ามตีนักโทษในเรือนจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะนักโทษที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน เนื่องจากปกติคนที่เป็นผู้คุมจะรู้ ๆ กับคนกลุ่มนี้ว่าเป็นข้าราชการด้วยกัน ทำให้คุยกันง่าย ซึ่งเท่าที่ตนเจอจะมีวุฒิภาวะ-เป็นผู้ใหญ่ น้อยมากจะมาเกเรในคุก แต่ถ้ามีก็ต้องลงโทษตามวินัย แต่ถ้านักโทษถูกทำร้ายร่างกายโดยผู้คุมจริง ก็สามารถร้องเรียนได้ แม้จะเป็นนักโทษไม่มีญาติก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ตนทราบมาว่ายุคปัจจุบัน ราชทัณฑ์ได้เน้นระบบป้องกันความรุนแรงเป็นพิเศษ ดังนั้นการฝากนักโทษไปทำร้ายกันก็เป็นไปได้ยาก เพราะทุกจุดในเรือนจำมีกล้องวงจรปิดหมด-ในห้องนอนก็มี แต่เรื่องใช้กระบองตีนั้น ยอมรับว่าอาจมีบ้างเพราะเป็นเหตุทะเลาะวิวาท หากไปพูดดีๆ ว่า หยุดนะ อย่าตีกัน คงไม่มีใครหยุดเป็นแน่

ทั้งนี้ พรบ.ราชทัณฑ์ 2479 ไม่มีการระบุโทษของผู้คุมในกรณีการทำร้ายผู้ต้องขังชัดเจน มีการปรากฏเพียงว่า ตามมาตรา 17 เจ้าพนักงานเรือนจำอาจใช้อาวุธปืนแก่ผู้ต้องขังได้ในกรณีต่อไปนี้
1. ผู้ต้องขังไม่ยอมวางอาวุธ เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้วาง
2. ผู้ต้องขังกำลังหลบหนี ไม่ยอมหยุดเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้หยุด และไม่มีทางอื่นที่จะจับกุมได้
3. ผู้ต้องขังตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ก่อการวุ่นวาย หรือพยายามใช้กำลังเปิดประตูหรือทำลายประตูรั้ว หรือกำแพงเรือนจำ หรือใช้กำลังกายทำร้ายเจ้าพนักงานหรือผู้อื่น และไม่ยอมหยุดในเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้หยุด
ถ้ามีเจ้าพนักงานเรือนจำผู้มีอำนาจเหนือตนอยู่ในขณะนั้นด้วย จะใช้อาวุธปืนได้ก็ต่อเมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงานผู้นั้นแล้วเท่านั้น
มาตรา 18 ในกรณีฉุกเฉินอันอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือความปลอดภัยของผู้ต้องขัง ถ้าเจ้าพนักงานเรือนจำไม่สามารถจะย้ายผู้ต้องขังไปควบคุมไว้ ณ ที่อื่นใดได้ทันท่วงทีจะปล่อยให้ผู้ต้องขังไปชั่วคราวก็ได้ แต่ผู้ต้องขังที่ถูกปล่อยไปนั้นต้องกลับมาเรือนจำหรือรายงานตนยังสถานีตำรวจ หรือที่ว่าการอำเภอ ภายในกำหนด 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลาที่ปล่อยไป และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่นั้นๆ ถ้าผู้ต้องขังที่ถูกปล่อยไปละเลยไม่ปฏิบัติดังกล่าวนี้ ให้ถือว่ามีความผิดฐานหลบหนีการควบคุมเว้นแต่จะมีข้อแก้ตัวอันควร
มาตรา 19 ในการจับกุมผู้หลบหนีภายใน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เวลาที่ที่หนีไป เจ้าพนักงานเรือนจำ อาจใช้อำนาจตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 15 ถึง 17 แห่งพระราชบัญญัตินี้โดยอนุโลม เมื่อสิ้นกำหนดเวลานี้แล้ว จะใช้อำนาจเช่นว่านั้นต่อไปมิได้ แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดอำนาจของเจ้าพนักงานเรือนจำ ในการที่จะจัดการจับกุมผู้หลบหนีโดยประการอื่น
มาตรา 20 ถ้าผู้ต้องขังได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงตายในขณะช่วยเหลือเจ้าพนักงานเรือนจำ ทำการตามหน้าที่ดังกล่าวไว้ในหมวดนี้ ให้นำบทบัญญัติมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 21 เจ้าพนักงานเรือนจำผู้ใช้อำนาจ ที่ได้ให้ไว้ในหมวดนี้โดยสุจริตและตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งหรืออาญาในผลแห่งการกระทำของตน
ขอบคุณข้อมูลจาก หรั่งพระนคร, โหนกระแส, TheHOUSE
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประวัติ ‘ยู่ยี่ อลิสา อินทุสมิต’ อดีตนางแบบ เผยชีวิตเรือนจำหลังได้รับอิสระ
- ‘หรั่ง พระนคร’ อดีตขาใหญ่ เล่าชีวิตในเรือนจำ นักโทษหน้าดี-ผิวดี เป็นที่หมายปอง
- ประวัติ ยุทธ อดีตผู้คุมออกโหนกระแส ดูนักโทษ 33 ปี เจอสีกากีมากสุด ก่อนเล่าชีวิตข้างใน