เปิดภาพ พระอาทิตย์ตกบนดวงจันทร์ครั้งแรก วงแหวนไฟสุดอลังการ

เห็นพร้อมกันครั้งแรก พระอาทิตย์ตกบนดวงจันทร์ และสุริยุปราคา เผย วงแหวนไฟสุดอัศจรรย์-แสงสนธยาลึกลับ นาซ่าเตรียมเก็บข้อมูล ปูทางสำรวจดวงจันทร์
‘นาซ่า’ (NASA) หรือ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ แจ้งข่าวดี ภารกิจ Blue Ghost Mission 1 ของบริษัทไฟร์ฟลาย แอโรสเปซ (Firefly Aerospace) ประสบความสำเร็จในการนำส่งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ NASA จำนวน 10 ชิ้น ลงจอดบนดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ก่อนจะเสร็จสิ้นภารกิจเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมเปิดภาพพระอาทิตย์ตกบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรก
ยานสำรวจ Blue Ghost เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CLPS (Commercial Lunar Payload Services) และโครงการ Artemis ของ NASA ได้นำส่งอุปกรณ์ไปยังบริเวณแอ่งทะเลแห่งวิกฤต (Mare Crisium) ทางด้านใกล้ของดวงจันทร์
ระหว่างปฏิบัติภารกิจ Blue Ghost ได้บันทึกภาพและวิดีโอหลายรายการ รวมถึงภาพสุริยุปราคาเต็มดวงสุดตระการตา จากมุมมองบนดวงจันทร์ เผยให้เห็นวงแหวนไฟ (annular ring of fire) จากขอบของดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลังโลก และจุดสว่างที่ดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นจากเงามืด รวมถึงภาพแสงสนธยา (sunset) ที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าสีดำสนิท ซึ่งแตกต่างจากภาพที่เราคุ้นเคยบนโลก เนื่องจากดวงจันทร์ไม่มีชั้นบรรยากาศ

ภาพหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือ ภาพแสงขอบฟ้า” (horizon glow) ลึกลับ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จะนำไปวิเคราะห์ว่า เกิดจากฝุ่นที่ลอยขึ้น (levitating dust) ตามที่ Gene Cernan (จีน เซอร์แนน) นักบินอวกาศคนสุดท้ายของโครงการ Apollo 17 ที่ได้เหยียบดวงจันทร์ เคยตั้งข้อสังเกตไว้เมื่อ 50 ปีก่อนหรือไม่
ด้าน ‘โจเอล เคิร์นส์’ (Joel Kearns) องผู้บริหารฝ่ายสำรวจ Science Mission Directorate ของ NASA เผยว่า “สิ่งที่เราได้คือภาพที่สวยงาม น่าทึ่ง และแสดงให้เห็นถึงลักษณะที่ไม่ธรรมดา”

นอกจากภาพถ่ายสุริยุปราคา, แสงสนธยา, และภาพอื่น ๆ อีกประมาณ 9,000 ภาพแล้ว ภารกิจนี้ยังได้ติดตั้งเครื่องถ่ายภาพรังสีเอกซ์ เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างลมสุริยะและสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกว่าสภาพอวกาศและแรงอื่น ๆ ในจักรวาลรอบ ๆ โลก ส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์อย่างไร โดยเครื่องถ่ายภาพรังสีเอกซ์ เป็นเพียงหนึ่งในอุปกรณ์ 10 ชิ้น ที่เปิดใช้งาน, เก็บรวบรวมข้อมูลบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ

ปัจจุบัน ดวงจันทร์มีเครื่องมือวัดความร้อนใต้ผิวดาวเคราะห์ที่ลึกที่สุด สามารถเจาะได้ลึกถึง 91 ซม. และทำการวัดความร้อนในระดับความลึกต่าง ๆ เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ยังมีการส่งเครื่องวัดคลื่น (sounder) ที่ใช้เซ็นเซอร์เพื่อศึกษาภายในของดวงจันทร์ โดยการวัดสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กได้ลึกถึงกว่า 1,126 กม. หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของระยะทางไปยังแกนกลางของดวงจันทร์
เทคโนโลยีบางส่วนเกี่ยวข้องกับการป้องกันพื้นผิวดวงจันทร์จากเครื่องมือและอุปกรณ์ เช่น แผงป้องกันฝุ่นไฟฟ้าสถิต (electrodynamic dust shield) ที่ยกและกำจัดดินบนดวงจันทร์ หรือ regolith ออกจากพื้นผิวได้สำเร็จ และ เครื่องมือ Regolith Adherence Characterization ที่ตรวจสอบว่าวัสดุพื้นผิวดวงจันทร์เหนียวติดกับสิ่งของต่าง ๆ เช่น ชุดอวกาศ, ยาน, และที่อยู่อาศัย อย่างไร ในทางกลับกัน Lunar PlanetVac มีหน้าที่รวบรวมตัวอย่างฝุ่นและดินบนดวงจันทร์

ข้อมูลจาก : nasa และ traveltomorrow
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นาซ่าเผย ดาวเคราะห์น้อย 2024 YR4 โอกาสพุ่งชนโลก ในอีก 7 ปี เพิ่มขึ้น
- ทำได้ไง นาซ่าซ่อมยาน “วอยเอจเจอร์ 1” แก้เชื้อเพลิงตัน ที่สุดขอบระบบสุริยะ
- หลอน! นักบินอวกาศนาซ่า ได้ยิน ‘เสียงประหลาด’ จากยานสตาร์ไลเนอร์ ที่มีปัญหาของ ‘โบอิ้ง’