เปิดแฟ้มลับ คดีสังหาร JFK พบเอกสารกว่า 3 หมื่นหน้า เขย่าทำเนียบขาว

เปิดแล้ว เอกสารลับ คดีลอบสังหาร จอห์น เอฟ เคเนดี กว่า 3 หมื่นหน้า ดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ archives เขย่าทำเนียบขาว
เมื่อคำสั่งจากผู้นำสูงสุดแห่งทำเนียบขาว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ คลายปลดล็อคกล่องดำแห่งประวัติศาสตร์ เผยเอกสารลับที่ถูกเก็บซ่อนมานานหลายทศวรรษเกี่ยวกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี ในปี 1963 ได้ฤกษ์ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกวันนี้! ราวกับเป็นการเปิดฉากบทใหม่ของปริศนาที่ยังคงตามหลอกหลอนคนอเมริกันมาจนถึงทุกวันนี้
เอกสารมากกว่า 1,100 ฉบับ รวมกว่า 31,000 หน้า ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ (National Archives and Records Administration – NARA) ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคดีลอบสังหาร JFK ไปแล้วกว่า 6 ล้านหน้า รวมถึงภาพถ่าย ฟิล์มภาพยนตร์ การบันทึกเสียง และหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
แลร์รี เจ. ซาบาโต (Larry J. Sabato) ผู้อำนวยการศูนย์การเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย และผู้เขียนหนังสือ The Kennedy Half-Century กล่าวว่า ทีมของเขากำลังศึกษาข้อมูลจากเอกสารเหล่านี้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานพอสมควร กว่าที่จะเข้าใจถึงสาระสำคัญของเอกสารทั้งหมด
“เรามีงานอีกมากที่ต้องทำไปอีกนาน ผู้คนต้องยอมรับว่าการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ต้องใช้เวลา” ซาบาโตกล่าว
ทรัมป์ เคยประกาศปล่อยเอกสาร แต่เก็บบางส่วนไว้
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศการปล่อยเอกสารนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 มี.ค. 68) ขณะเยือน ศูนย์ศิลปะการแสดง JFK ในกรุงวอชิงตัน โดยระบุว่ารัฐบาลของเขาจะปล่อยเอกสารประมาณ 80,000 หน้า
“เรามีเอกสารจำนวนมหาศาล นี่คือข้อมูลที่ต้องอ่านกันเยอะมาก” ทรัมป์กล่าว
ตามข้อมูลจาก หอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ การเปิดเผยครั้งนี้ครอบคลุม เอกสารทั้งหมดที่เคยถูกระงับการเผยแพร่เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง
นักวิจัยเคยคาดการณ์ว่า มีเอกสารราว 3,000 ฉบับ ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยทั้งฉบับ หรือบางส่วนยังถูกปกปิด และเมื่อเดือนที่แล้ว FBI พบเอกสารใหม่ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อีก ประมาณ 2,400 ฉบับ
ไม่มีหลักฐานชี้ชัดทฤษฎีสมคบคิด แต่ประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่สนใจ
ผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาข้อมูลที่รัฐบาลเปิดเผยก่อนหน้านี้ เชื่อว่าประชาชนไม่ควรคาดหวังว่าจะพบหลักฐานใหม่ที่เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ แต่ก็ยังมีความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับรายละเอียดของคดีนี้ คำสั่งของทรัมป์เมื่อเดือนมกราคม ได้ให้ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (DNI) และอัยการสูงสุด จัดทำแผนเปิดเผยเอกสารที่เหลือ
ย้อนรอยคดีลอบสังหาร จอห์น เอฟ. เคนเนดี
จอห์น เอฟ. เคนเนดี ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 1963 ขณะเยือนเมือง ดัลลัส รัฐเท็กซัส ขณะที่ขบวนรถของเขากำลังเคลื่อนผ่านตัวเมือง เสียงปืนดังขึ้นจากอาคารคลังหนังสือเรียนเท็กซัส (Texas School Book Depository)
ตำรวจได้จับกุม ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ (Lee Harvey Oswald) อายุ 24 ปี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืนที่ยิง จอห์น เอฟ. เคนเนดี จากชั้น 6 ของอาคารดังกล่าว สองวันต่อมา แจ็ค รูบี้ (Jack Ruby) เจ้าของไนต์คลับในดัลลัส ได้ยิงสังหารออสวอลด์ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเคลื่อนย้ายตัวเขา
หนึ่งปีหลังเหตุการณ์ลอบสังหาร คณะกรรมาธิการวอร์เรน (Warren Commission) ซึ่งอดีตประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสัน (Lyndon B. Johnson) แต่งตั้งขึ้นเพื่อสืบสวนคดีนี้
สรุปว่า ออสวอลด์ลงมือเพียงลำพัง และไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นการสมคบคิด อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ไม่ได้ทำให้ข้อสงสัยต่าง ๆ ยุติลง แต่กลับทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายตลอดหลายสิบปี
เอกสารใหม่เผยรายละเอียดเกี่ยวกับ KGB และความเชื่อมโยงของออสวอลด์
ในเอกสารที่ได้รับการเปิดเผยใหม่ มีบันทึกของ สำนักงาน CIA ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลงวันที่ พฤศจิกายน 1991 ซึ่งระบุว่า CIA ได้พบกับศาสตราจารย์ชาวอเมริกันที่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเพื่อนที่ทำงานให้ KGB (หน่วยข่าวกรองของสหภาพโซเวียต)
บันทึกดังกล่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ KGB เคยตรวจสอบแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับออสวอลด์ 5 เล่มใหญ่ และมั่นใจว่าออสวอลด์ ไม่เคยเป็นสายลับของ KGB
บันทึกนี้ยังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ KGB สงสัยว่าออสวอลด์เป็นบุคคลที่ควบคุมไม่ได้ และถึงแม้จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดระหว่างที่อยู่ในสหภาพโซเวียต แต่ไม่มีหลักฐานว่าเขาถูกควบคุมโดย KGB นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ออสวอลด์มีทักษะการยิงปืนที่ย่ำแย่ เมื่อเขาเคยฝึกยิงเป้าหมายในโซเวียต
การจัดเก็บเอกสารและเงื่อนไขการเปิดเผย
ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งให้รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหาร JFK ทั้งหมดไว้ที่ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ โดยมีกำหนดให้เปิดเผยเอกสารทั้งหมดภายในปี 2017 ยกเว้นเอกสารที่ประธานาธิบดีเห็นว่าควรเก็บไว้ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง
เอกสารประมาณ 500 ฉบับ รวมถึงเอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษี ไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดให้เปิดเผยในปี 2017
เมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในปี 2017 เขาเคยให้คำมั่นว่าจะปล่อยเอกสารที่เหลือทั้งหมด แต่ท้ายที่สุด ได้ระงับบางส่วน เนื่องจากกังวลว่าการเปิดเผยอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
แล้วอะไรคือความจริงเบื้องหลังการลอบสังหารครั้งนั้น?
ซาบาโต กล่าวว่า ทีมของเขามี รายชื่อเอกสารที่สำคัญ ที่เคยถูกเซ็นเซอร์บางส่วน ซึ่งพวกเขากำลังพยายามตรวจสอบ
“หากมีการปกปิดย่อหน้าหรือหน้าต่าง ๆ ไว้ ย่อมหมายความว่าต้องมีบางสิ่งที่อ่อนไหวจริง ๆ” ซาบาโตกล่าว “บางส่วนเกี่ยวกับคิวบา บางส่วนเกี่ยวกับสิ่งที่ CIA ทำหรือไม่ได้ทำที่เกี่ยวข้องกับออสวอลด์”
ก่อนหน้านี้ มีเอกสารที่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ การปฏิบัติการของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ในยุคนั้น รวมถึง สายลับ CIA และบันทึกการพบปะของออสวอลด์กับสถานทูตโซเวียตและคิวบา ระหว่างที่เขาเดินทางไปเม็กซิโกซิตี้ ไม่กี่สัปดาห์ก่อนการลอบสังหาร
ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานที่เปลี่ยนแปลงข้อสรุปเดิม แต่การเปิดเผยเอกสารเพิ่มเติมยังคงเป็นประเด็นที่ผู้สนใจประวัติศาสตร์เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทรัมป์ จ่อเปิดเอกสารลับ 8 หมื่นหน้า คดี เคนเนดี แบบไม่เซ็นเซอร์
- “นพดล” ลั่น “ทักษิณ” เคยถูกลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ไม่กลัวถูกสอบ
- ย้อนเส้นทางคดี “เบนซ์ เรซซิ่ง” หลังศาลฎีกา ยกฟ้องข้อหาสมคบค้ายาเสพติด
อ้างอิง : AP