คุณพระ ป้าจับควายเป็นตัวประกัน ก่อนเรียกค่าไถ่ นายตำรวจประจำตู้ยามรีบมาช่วยเคลียร์ ก่อนรู้สาเหตุที่แท้โมโหเจ้าของควายที่รู้จักกันดี ปล่อยเดินเพ่นพ่าน พืชผลเสียหายไป 15 ต้น ประสานผู้ใหญ่บ้านเรียกเจ้าของควายเจรจาค่าเสียหาย แต่เงียบจนต้องยกหู 191
เป็นเหตุการณ์สดๆ ร้อนๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากมีชาวบ้านหมู่ 8 ในอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โทรศัพท์แจ้งเหตุมายัง 191 ขอให้ช่วยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแก้ไขปัญหา “ควาย” ของชาวบ้าน บุกรุกเข้ามาภายในบริเวณสวนหลังบ้าน พร้อมกัยสร้างความเสียหายเนื่องจากพืชผลถูกกินและเหยียบย่ำเสียหายจนเกือบหมดสวน
ต่อมารายงานจากไทยรัฐนิวส์โชว์ ป้าน้อง อายุ 59 ปี พนง.ร้านขนมปังแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ กำลังอยู่ในสีหน้าเคร่งเครียดและร่ำไห้พร้อมกับในมือยังได้จับควายสีดำตัวใหญ่ไว้เป็น “ตัวประกัน” โดยกำลังเจรจาอยู่กับ ร.ต.ต.อภิสิทธิ์ สุทธิ นายตำรวจประจำตู้ยามเตาถ่าน เพื่อต้องการให้เจ้าของควายมารับผิดชอบกรณีที่ปล่อยสัตว์เพ่นพ่าน บุกรุกเข้ามาในที่ของคนอื่นจนได้รับความเสียหายพืชผลล้มตายไปจำนวน 15 ต้น
ป้าน้อง เล่าว่าก่อนหน้านี้สวนกล้วยเคยถูกควายเข้ามากัดกินเหยียบย่ำเสียหายมาแล้ว แต่ไม่คิดติดใจเอาความเพราะเป็นคนที่รู้จักกัน กระทั่ง 3 วันก่อนทนไม่ไหวที่เจ้าของปล่อยควายให้เข้ามากัดกินทำลายต้นกล้วยอีก คราวนี้เสียหายหนักจนเกือบหมดสวนจึงได้นำควายผูกล่ามไว้ที่บริเวณบ้าน พร้อมประสานผู้ใหญ่บ้านให้เรียกฝ่ายคู่กรณีเจ้าของควาย มาเจรจาค่าเสียหาย ซึ่งจะขอเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000 บาท เพื่อนำไปซื้อต้นกล้วยมาปลูกใหม่
แต่กระทั่งวันนี้ เวลาผ่านเลยมาแล้ว 3 วัน เจ้าของควายไม่ปรากฏตัวจึงแจ้งตำรวจให้เข้ามาหาข้อยุติ เกี่ยวกับปัญหา “ควาย” ที่เกิดขึ้น
เบื้องต้น ร.ต.ต.อภิสิทธิ์ สุทธิ ที่เข้ามาระงับเหตุได้ติดต่อพูดคุยกับฝ่ายคู่กรณีเจ้าของควายเพื่อให้เข้ามาไกล่เกลี่ยเจรจาค่าเสียหาย ซึ่งฝ่ายคู่กรณีให้เหตุผลว่า ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีเวลามาคุยเนื่องจากว่า ภรรยาป่วยและเดี๋ยวจะเข้ามาในวันพรุ่งนี้ เพื่อมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยในเรื่องข้อกฎหมายให้ฝ่ายผู้เสียหายรับทราบในกรณีหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ให้นำโทรศัพท์มาถ่ายคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน และไปแจ้งความกับทางตำรวจเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ไม่ใช่แก้ไขปัญหาด้วยการจับควายผู้อื่นเป็นตัวประกัน เพราะสุ่มเสี่ยงอาจเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ผู้อื่นได้
อีกทืั้งหากทางฝ่ายคู่กรณี ไม่สามารถเจรจาตกลงกันได้ก็ให้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อเป็นตัวกลางในการหาข้อยุติในเรื่องนี้ต่อไป.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วุ่น! หนุ่มซื้อควายทำคาเฟ่บ้านทุ่ง ก่อน ควายหลุด ไล่ขวิดแหลก
- สาวเลี้ยงควาย ถอดสร้อยทองใส่จานถั่ว น้องทุยไม่รู้เผลอหม่ำ
- ตาขุดเจอหินสีทอง ขายแลกเงินหลักพัน ช็อก ราคาจริงเกือบพันล้าน
ข่าวล่าสุด
