ตร.เตือน ล่าเหรียญ Jagat แลกเงิน แอปของอินโดฯ อันตรายมีมากกว่าข้อมูลหลุด
ตำรวจเตือน ล่าเหรียญ Jagat คนอื่นเห็นโลเคชั่นขด้วย แคมเปญหาเหรียญล่าขุมทรัพย์บางพื้นที่เป็นที่รกร้าง โพลงหญ้า อาจเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน ประวัติบริษัทพัฒนาแอปพลิเคชั่นมาจากอินโดนีเซีย ไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจในประเทศไทย เสียหายมายากหาความคุ้มครอง หวั่นอันตรายเด็ก-เยาวชนโดนลวงผ่านภารกิจแตกตื่น
จากกรณีโลกโซเชียลพากันแห่แชร์คลิปกลุ่มวัยรุ่นตอลดจนผู้คนจำนวนมากพากันแตกตื่น ! พร้อมๆ กับแห่กันทำภารกิจล่าขุมทรัพย์ด้วยการตระเวนไล่เก็บเหรียญที่ใช้ชื่อว่า “จากัต” (JagatCoin) จนต่อมามีรายงานชาวบ้านใน 5 พื้นที่ กทม. ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ เชียงราย บางส่วนได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากถูกปีนบ้านและรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล
ล่าสุด วันนี้ (21 ม.ค.) พลตำรวจตรี วรวิทย์ ญาณจินดา ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เปิดเผยรายงานพร้อมเตือนประชาชนที่ทำภารกิจตามล่าหาเหรียญตามสถานที่ต่างๆ ว่า ตั้งแต่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีประชาชนจำนวนมากออกตามหาเหรียญ #Jagat ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจากอินโดนีเซีย เพื่อแลกเหรียญเป็นเงิน
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดการละเมิดพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในพื้นที่
พล.ต.ต.วรวิทย์ จึงได้สั่งการให้ กองกำกับการสายตรวจ ยกระดับการป้องกันเหตุ โดยออกเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้แอปพลิเคชันดังกล่าว หลีกเลี่ยงการรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล และเฝ้าระวังภัยจากมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ หากประชาชนในกรุงเทพฯ บริเวณใดได้รับความเดือดร้อน หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้ง สายด่วน 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบได้ทันที
ทั้งนี้ พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รองผกก.สายตรวจ (จักรพล3) โพสต์คลิปให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงแคมเปญล่าเหรียญ Jagat ดังกล่าวนั้น เป็นแคมเปญที่เปิดให้ผู้โหลดแอปฯ สามารถเข้าร่วมภารกิจใน 5 พื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย กรุงเทพฯ,ภูเก็ต,เชียงใหม่, เชียงราย และพัทยา มีเงินรางวัลมาล่อใจคือหากเก็บเหรียญสามารถไปแลกเป้นเงินเข้าบัญชีผ่านแอปฯ ได้ใน 2-3 วัน โดยเหรียญสีทองแดง, เหรียญเงินไปจน “เหรียญทอง” ต่างมีมูลค่าตั้งแต่ 500 บาทไปจนถึง 2 แสนบาท
อย่างไรก็ดี แอปฯ โหลดให้ล่าเหรียญนี้ยังมีอันตรายที่สุ่มเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน ข้อมูลล่าสุด พ.ต.ท.วสุเทพ ทราบมาว่าบริษัทมีรายชื่อทั้งหมด17 คน อยู่ต่างประเทศทั้งหมด อินโดฯ สิงคโปร์ เวียดนาม ไม่มีคนไทยอยู่ในโปรไฟล์ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการมาจัดกิจกรรมที่ประเทศไทยนั้นได้รับอนุญาตหรือไม่ ? ซึ่งเมื่อส่งอีเมล์สอบถามแล้วปรากฎยังไม่ได้รับคำตอบ
ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบข้อมูลคลังธุรกิจในประเทศไทยก็ไม่ได้มีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจในไทย ซึ่งจุดนี้หากโดนนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้จะไม่มีหน่วยงานใดให้ความคุ้มครองได้เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น
นอกจากนี้ แอปฯ ยังเป็นการบอกโลเคชั่นหรือพิกัดติดตามตัวของผู้ร่วมภารกิจเวลาไปหาเก็บเหรียญล่าขุมทรัพย์ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจุเนี้สำคัญมากเพราะถือว่าอันตรายเป็นอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพไม่หวังดีติดต่อลวงเหยื่อหรือสะกดรอยตามจนเสี่ยงต่อการเกิดสูญเสียร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย.
@wasuthep191 🚨 เตือนภัย! ระวังตามหาเหรียญ #JagatCoin เสี่ยงอะไรบ้าง! 🚨 อยู่ดีๆ ต้นปี 2568 ก็มีบริษัทจากอินโดมาโปรยเหรียญ ให้คนไทยตามหากัน เป็นกระแสในโลกออนไลน์ ในฐานะตำรวจ ที่ต้องประเมินความเสี่ยง จึงทำข้อมูลมาเตือนให้ประชาชนรับรู้กันครับ ❗ ความเสี่ยงที่ต้องรู้: 1️⃣ บริษัทที่ทำเรื่องนี้ เป็นสัญชาติอินโด เข้าไปดูไปร์ไฟล์ใน LinkedIn ไม่มีทีมงานคนไทยเลย หากเกิดเหตุไม่รู้จะติดต่อกับใคร 💰 2️⃣ App ออกแบบให้คนที่ไม่ระวัง อาจเผลอไปกด สมัครแบบเสียเงิน รายสัปดาห์ รายเดือน และ รายปี โดยไม่รู้ตัวได้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน 📊 3️⃣ การแชร์พิกัดตำแหน่งของผู้ใช้ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพ เฝ้าติดตามและฉวยโอกาสลงมือขโมยทรัพย์สินไปได้ 🔍 💡 คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง: พูดคุยกับบุตรหลานเกี่ยวกับความเสี่ยงในการตามหาเหรียญผ่าน App Jagat ก่อนที่จะสูญเสียนะครับ #เตือนภัย #ตํารวจ #กองกํากับการสายตรวจ191
♬ original sound – ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก – ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แห่ล่าเหรียญ Jagat แลกเงิน 2 แสน เชียงใหม่แตกตื่น ปีนบ้านทำภารกิจ-นักกีฬาทีมชาติยังมี
- ชมคลิป ลิซ่า รันวงการพรีเมียร์ลีก มอบเหรียญเลือกฝั่ง บิ๊กแมตช์ อาร์เซนอล ชนะ สเปอร์ส 2-1
- ร้านดังเผย เหรียญ 1 บาท 3 รอบ ปี 2506 ลักษณะพิเศษราคาพุ่งหลักแสน