ข่าวต่างประเทศ

ทรัมป์ เริ่มทำงานทันที เซ็นคำสั่งถอนตัวจาก WHO-สนธิสัญญาปารีส

ทรัมป์ เริ่มทำงานทันที เซ็นคำสั่งถอนตัวจาก WHO-สนธิสัญญาปารีส รวมถึงยังมีคำสั่งอภัยโทษผู้ต้องหา 1,500 คน บุกทำเนียบ

เมื่อวันที่ 21 มกราคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เริ่มเซ็นคำสั่งภายหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยภายหลังจากที่นาย ทรัมป์ กลับเข้าสู่ห้องทำงานรูปไข่ ห้องทำงานของประธานาธิบดี นาย ทรัมป์ ก็เริ่มทำงานทันที

Advertisements

โดยนาย ทรัมป์ เซ็นคำสั่งอภัยโทษผู้ต้องหา 1,500 คน ที่ก่อเหตุบุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 มกราคม เมื่อปี 2564 ภายหลังจากที่ นาย ทรัมป์ แพ้การเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน เป็นเหตุให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4 ศพ และบาดเจ็บหลายราย

นาย ทรัมป์ ยังได้เซ็นคำสั่งถอนตัวจากสนธิสัญญาปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

President Donald Trump holds up an executive order after signing it at an indoor Presidential Inauguration parade event in Washington, Monday, Jan. 20, 2025. (AP Photo/Matt Rourke)

พร้อมกันนี้ยังได้เซ็นคำสั่งเซ็นตั้ง กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency: DOGE) โดยมีนาย อีลอน มัสก์ เป็นหัวเรือใหญ่ รวมถึงเซ็นคำสั่งเกี่ยวกับ TikTok แต่ไม่ได้ระบุว่าเซ็นเรื่องอะไร กล่าวเพียงแค่ว่าเขามีอำนาจในการปิดหรือขาย TikTok ทั้งนี้นาย ทรัมป์ เคยกล่าวว่าเขาจะยืดระยะเวลาให้ขายหุ้นไปอีก 90 วัน

นอกจากนี้ยังเซ็นคำสั่งถอนตัวสหรัฐฯ จากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO อีกรอบ โดยระบุว่าสหรัฐฯ ต้องจ่ายเงินมากกว่าและไม่ยุติธรรมเมื่อเทียบกับชาติอื่น

ส่วนเรื่องสงครามรัสเซียยูเครนนั้น นาย ทรัมป์ กล่าวว่า โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนอยากหาข้อตกลงยุติสงคราม

Advertisements

ขณะที่เรื่องขึ้นภาษีสินค้าจีนจากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 60 นั้น นาย ทรัมป์ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า เขาได้โทรคุยกับนาย สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และเขามีการพูดคุยที่ดีกับผู้นำจีน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button