ทรัมป์ คลั่ง ทรัมป์ขู่ใช้ภาษี ยึดแคนาดา เป็นรัฐที่ 51 ทรูโด สวนเดือด
“ทรูโด” ตอกกลับ “ทรัมป์” ไม่มีทางที่แคนาดาจะเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ หลัง ว่าที่ประธานาธิบดีขู่ใช้มาตรการภาษี ทำลายเศรษฐกิจประเทศ
จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ออกมาตอบโต้แรงต่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ขู่จะใช้ “แรงกดดันทางเศรษฐกิจ” เพื่อผนวกแคนาดาเข้ากับสหรัฐฯ โดยระบุว่าไม่มีทาง “แม้แต่หิมะตกในนรก” ที่จะให้สองประเทศรวมกัน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กล่าวถึงแคนาดาซ้ำๆ ว่าควรเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โดยในการแถลงข่าวที่บ้านพักมาร์-อา-ลาโก รัฐฟลอริดา เมื่อวันอังคาร เขากล่าวว่า “ลองคิดดูถ้าเราลบเส้นพรมแดนที่ถูกวาดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาตินั่นออกไป มันจะดีกว่านี้มากในแง่ความมั่นคงของชาติ การรวมแคนาดากับสหรัฐฯ จะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก”
ทรัมป์ยังย้ำถึงการขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้า “จำนวนมาก” กับสินค้าแคนาดา หากประเทศไม่ดำเนินการเพิ่มความปลอดภัยตามแนวชายแดนที่มีร่วมกัน การขู่เรื่องภาษีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่แคนาดากำลังเผชิญความท้าทายทางการเมือง หลังจากทรูโดประกาศลาออกเมื่อวันจันทร์ แม้จะยังคงดำรงตำแหน่งนายกฯ ไปจนกว่าพรรคเสรีนิยมจะเลือกผู้นำคนใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคม
ทรัมป์ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับกำลังทหารของแคนาดาว่า “พวกเขามีกองทัพขนาดเล็กมาก ต้องพึ่งพากองทัพของเรา ซึ่งก็ไม่เป็นไร แต่พวกเขาต้องจ่ายสำหรับสิ่งนั้น มันไม่ยุติธรรมเลย”
ปัจจุบันงบประมาณด้านกลาโหมของแคนาดาอยู่ที่ 19.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้รัฐบาลทรูโดจะสัญญาว่าจะเพิ่มเป็นเกือบ 50 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า หากทรัมป์เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าหลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจแคนาดา เนื่องจากในปี 2023 มีสินค้าและบริการมูลค่าเกือบ 3.6 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ข้ามพรมแดนทุกวัน
ด้านดั๊ก ฟอร์ด ผู้นำรัฐออนแทรีโอ ได้ตอบโต้ข้อเสนอเรื่องการเป็นรัฐที่ 51 อย่างมีอารมณ์ขันว่า “ผมจะเสนอข้อแลกเปลี่ยนกลับไป ว่าไงถ้าเราซื้อรัฐอลาสก้า และเราจะโยนเมืองมินนิแอโพลิสและรัฐมินนิโซตาเข้าไปด้วยเลย?” พร้อมเตือนว่าแคนาดา “จะตอบโต้อย่างหนัก” หากรัฐบาลทรัมป์เดินหน้าเก็บภาษี
ฟอร์ดยังเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะด้านพลังงาน ระบุว่าสหรัฐฯ “ต้องพึ่งพารัฐออนแทรีโอสำหรับไฟฟ้า เราจ่ายไฟให้บ้านเรือนและธุรกิจในสหรัฐฯ ถึงหนึ่งล้านห้าแสนแห่ง” ขณะที่เดวิด เอบี้ นายกรัฐมนตรีรัฐบริติชโคลัมเบีย เปิดเผยว่า ผู้นำรัฐต่างๆ ของแคนาดาจะเดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. เร็วๆ นี้ เพื่อล็อบบี้ต่อต้านการขึ้นภาษีที่อาจเกิดขึ้น
ทั้งนี้ แคนาดาและสหรัฐอเมริกามีประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์อันยาวนานในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนร่วมกันยาวที่สุดในโลก (8,891 กิโลเมตร) โดยทั้งสองประเทศมีความร่วมมือทางการค้าผ่านข้อตกลง USMCA (United States-Mexico-Canada Agreement) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2020 แทนที่ข้อตกลง NAFTA เดิม นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือด้านความมั่นคงผ่านองค์การ NATO และ NORAD (North American Aerospace Defense Command) ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันน่านฟ้าของทวีปอเมริกาเหนือร่วมกัน การที่ทรัมป์พยายามกดดันให้แคนาดาเข้าร่วมเป็นรัฐที่ 51 จึงถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และสะท้อนให้เห็นถึงนโยบายต่างประเทศที่แข็งกร้าวของทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานระหว่างสองประเทศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “จัสติน ทรูโด” ประกาศลาออกนายกแคนาดา รับเจอศึกภายใน
- ดาราแคนาดา ซัด ติ๊กต็อกเกอร์อินโดฯ คลิปกินค้างคาว หวั่นสร้างเชื้อโรคระบาดใหม่
- ทรัมป์ กร้าวเตรียมถอนสหรัฐฯ ออกจาก WHO ตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง