ตลาดรถยนต์ทรุดต่อเนื่อง ยอดผลิต-ยอดขาย พ.ย.67 ตกฮวบ หนี้เสีย 4 ล้อพุ่ง
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประเมินแนวโน้มยานยนต์ปีหน้า สูสีปี 67 แนะภาครัฐหนุนแบงก์ปล่อยสินเชื่อ
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมเปิดเผยจำนวนการผลิต-ยอดขายภายในประเทศและการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งมีการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 117,251 คัน ลดลงร้อยละ 28.23 ขาย 42,309 คัน ลดลงร้อยละ 31.34 ส่งออก 89,646 คัน ลดลงร้อยละ 10 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 5,519 คัน ลดลงร้อยละ 36.53 เมื่อดูตัวเลขเฉพาะรถยนต์นั่งพบว่าผลิตได้ 45,491 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 24.68 โดยแบ่งเป็น
- ICE จำนวน 28,876 คัน ร้อยละ 32.04
- BEV จำนวน 464 คัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 46,400
- PHEV จำนวน 386 คัน ลดลง ร้อยละ 48.53
- HEV จำนวน 15,765 คัน ลดลง ร้อยละ 8.11
ส่วนการผลิตเพื่อส่งออก เดือนพฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 80,022 คัน เท่ากับร้อยละ 68.25 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 20.67 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ผลิตได้ 37,229 คัน เท่ากับร้อยละ 31.75 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 40.42 และเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567 ผลิตได้ 422,181 คัน เท่ากับร้อยละ 30.95 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 33.48
สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนพ.ย. มีทั้งสิ้น 42,309 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม ร้อยละ 12.25 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ร้อยละ 31.34 จากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินเพราะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอเติบโตในอัตราต่ำที่ 3% ในไตรมาสสามของปีนี้ แต่หนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้น 22.8% จากไตรมาสสามปีที่แล้ว
หนี้ครัวเรือนสูงถึง 89.6% ของ GDP ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมยังคงลดลง ยอดขายบ้านลดลงจากปีที่แล้ว รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในอัตราต่ำการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนพฤศจิกายน ส่งออกได้ 89,646 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 6.30 แต่ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2566 ร้อยละ 10 เพราะปีที่แล้วฐานสูงและสงครามอิสราเอลกับฮามาสขยายไปหลายพื้นที่ทำให้จำนวนเที่ยวเรือมารับรถน้อยลงรวมทั้งหลายประเทศในเอเชียได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ชะลอตัวลง จึงส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลางและยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ส่งออกเพิ่มขึ้นตลาดอเมริกาเหนือแห่งเดียว เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 942,867 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 8.21
ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนพฤศจิกายน จดทะเบียนใหม่จำนวน 7,354 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 34.86 ส่งผลให้เดือนมกราคม – พฤศจิกายน มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสม 89,658 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – พฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 0.94
ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 8,409 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 11.76 และยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 768 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วร้อยละ 2.17 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 พฤศจิกายน มีจำนวนทั้งสิ้น 220,439คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 82.61 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 942,717.96 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 1.37 (อ่านเนื้อหาฉบับเต็ม คลิก)
ทั้งนี้ เมื่อ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ปรับเป้าการผลิตรถยนต์ จาก 1,700,000 คัน เป็น 1,500,000 คัน ลดลง 200,000 คัน แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออกจากเดิม 1,150,000 คัน เป็น 1,050,000 คัน และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศจาก 550,000 คัน เป็น 450,000 คัน.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ENNXO ตลาดรถมือสอง แพลตฟอร์มดีๆ ของคนที่มองหาซื้อขายรถมือสองที่ไหนดี
- สรุปยอดจองล่าสุด Motor Expo 2023 บีวายดี ขึ้นแท่น อันดับ 3 ตีตลาดรถอีวี
- กรุงไทยคาด ตลาดรถยนต์หดตัว 38.2% เหตุพิษโควิด-19