โคตรแซ่บ ปูติน ส่งสายลับสาวอกอึ๋ม ล้วงความลับชนชั้นสูงอังกฤษ ได้กินเศรษฐีเพียบ
ประวัติชีวิต แอนนา แชปแมน สายลับหญิงรัสเซีย ผู้นำเสน่ห์เข้าถึงชนชั้นสูงอังกฤษ สานสัมพันธ์มหาเศรษฐี ปูทางงานข่าวกรอง ก่อนบทสรุปถูกเปิดโปงในสหรัฐฯ เผยเส้นทางสายลับฉบับจริง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน แอนนา แชปแมน (Anna Chapman) สายลับสาวชาวรัสเซีย เผยครั้งแรกถึงเบื้องหลังการถูกดึงตัวโดยหน่วยข่าวกรองของเครมลินในช่วงที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในกรุงลอนดอน เพื่อใช้เสน่ห์ ความเย้ายวนดึงดูดเป็นอาวุธ ทำให้เธอสามารถแทรกซึมสู่ชนชั้นสูงและมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลของสหราชอาณาจักรได้
ในหนังสือแนวอัตชีวประวัติความยาว 461 หน้า ชื่อ “BondiAnna: To Russia With Love” ซึ่งจัดพิมพ์ที่มอสโก แชปแมนบรรยายตนเองประหนึ่งสายลับสาว 007 ที่ใช้เสน่ห์ทางเพศเป็นกุญแจไขประตูสู่โลกแห่งคนร่ำรวยและทรงอิทธิพลนับไม่ถ้วน
ขณะที่เธอถูกหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR) ทาบทามนั้น เธอมีพาสปอร์ตอังกฤษอยู่ในครอบครอง จากการสมรสที่ล้มเหลวกับอดีตสามีชาวอังกฤษ อเล็กซ์ แชปแมน ซึ่งมีพื้นเพเป็นหนุ่มผู้ดีอังกฤษจากโรงเรียนเอกชนระดับสูง
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังแทรกซึมเข้าไปในแวดวงนักธุรกิจและการเมืองระดับสูงของอังกฤษ รวมถึงสังคมผู้อพยพเศรษฐีชาวรัสเซีย และเชื้อพระวงศ์-เศรษฐีอาหรับผู้มั่งคั่งในลอนดอน
แชปแมนเล่าว่า ระหว่างที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในลอนดอน มีสายลับหนุ่มชาวมอสโกคนหนึ่งชื่อ คิริล (Kirill) เป็นผู้ชักชวนเธอ หลังจากที่เขาได้เห็นทักษะการสร้างเครือข่ายของเธอเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเข้าถึงบรรดาผู้ชายที่ร่ำรวยและมีอิทธิพล
คิริลวางแผนให้ตนเองได้นั่งเคียงข้างเธอบนเที่ยวบินแอโรฟลอตจากลอนดอนไปมอสโก เพื่อทดสอบจิตวิญญาณความรักชาติของเธอ จากนั้นเขายังตรวจสอบประวัติความน่าเชื่อถือของแชปแมนอย่างเงียบ ๆ ผ่านเพื่อนร่วมห้องแฟลตที่ลอนดอนของเธอ ชื่อ เอเลนา ซาวิทสกายา (ในหนังสือใช้ชื่อ เวร่า ซูวิตสกายา)
ต่อมา เมื่อเธอเดินทางกลับไปมอสโกอีกครั้ง มีนามบัตรของนักจิตวิทยาถูกทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์ของพ่อแม่เธอ เธอจึงตัดสินใจโทรนัดขอคำปรึกษา และต้องเผชิญการทดสอบทางจิตใจอย่างเข้มงวด
ในการเข้าพบครั้งถัดไป เธอกลับไม่พบจิตแพทย์หญิงคนเดิมอีก แต่กลับพบชายคนหนึ่ง ซึ่งเธอเรียกว่า “วลาดิเมียร์ วลาดิมิโรวิช” (ชื่อนี้ตรงกับชื่อจริงและชื่อกลางตามแบบรัสเซียของวลาดิเมียร์ ปูตินอย่างน่าประหลาดใจ) เขาเข้ามาแทนที่นักบำบัดในห้องให้คำปรึกษา
“ฉันรู้สึกสับสน น่าสนใจ และเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น” แชปแมนซึ่งขณะนี้อายุ 42 ปี เขียนเล่า “วลาดิเมียร์ วลาดิมิโรวิช จ้องมองฉันอย่างตั้งใจ เขานั่งอยู่ตรงข้ามฉัน ดวงตาสำรวจทุกรายละเอียดบนใบหน้าของฉันอย่างถี่ถ้วน สุดท้ายเขาประสานมือเข้าด้วยกันก่อนจะถามว่า ‘แอนนา เธอรู้แค่ไหนเกี่ยวกับ…งานข่าวกรอง?’”
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสายลับของเธอสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันในอีก 5 ปีถัดมา เมื่อเธอถูกจับกุมและถูกเปิดโปงต่อสาธารณะในนครนิวยอร์กโดยเอฟบีไอ ในฐานะสายลับรัสเซีย
เธอถูกคุมขัง ถูกเพิกถอนสัญชาติอังกฤษ และถูกส่งตัวกลับมอสโก โดยแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัว สืบเนื่องในข้อตกลงแลกเปลี่ยนสายลับครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัว เซอร์เก สกริปาล สายลับสองหน้า ที่ย้ายจากรัสเซียมาสหราชอาณาจักร
ต่อมาในปี 2018 สกริปาลตกเป็นข่าวช็อกโลกเมื่อถูกวางยาพิษด้วยสารพิษประสาทกลางเมืองซอลส์บรี โดยฝีมือหน่วยลอบสังหารของ GRU ซึ่งทำงานภายใต้คำสั่งของปูติน
หนังสือของแชปแมนเต็มไปด้วยบทรักที่สลับซับซ้อนระหว่างที่เธอใช้ชีวิตในลอนดอน มีทั้งทริปท่องเที่ยวไปปารีสและเจนีวากับบรรดาคู่รักและผู้อุปถัมภ์มหาเศรษฐี รวมถึงเหตุการณ์การเล่นสตริปโป๊กเกอร์กับกลุ่มเศรษฐีระดับหลานล้านปอนด์ในลอนดอน ซึ่งเธอชนะและได้งานในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ โดยตำแหน่งงานนี้เปิดประตูสู่การเข้าถึงกลุ่มชนชั้นนำทางการเงินอย่างน่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม เธอกลับไม่กล่าวถึงบรรดาสมาชิกรัฐสภาสูง (House of Lords) หรือมหาเศรษฐีอังกฤษที่เชื่อกันว่าเธอเคยเข้าหา อีกทั้งไม่พูดถึงความเสียหายอื่นๆ ที่เธออาจก่อต่อสหราชอาณาจักรในนามของหน่วยข่าวกรอง SVR ของปูติน
แต่เธอยอมรับว่า “ฉันรู้ว่าฉันมีอิทธิพลต่อผู้ชายอย่างไร ธรรมชาติมอบรูปร่างและลักษณะให้ฉันอย่างเอื้อเฟื้อ ทั้งเอวคอด อกอิ่ม และผมแดงพลิ้วสวย สิ่งที่ฉันต้องทำคือเน้นให้โดดเด่น ซึ่งฉันทำด้วยการแต่งตัวเรียบง่ายแต่เย้ายวน แต่งหน้าอ่อนๆ และมีท่าทีสบายๆ ฉันไม่เคยใส่เครื่องประดับ เพราะไม่เห็นความจำเป็
น สิ่งสำคัญที่สุดคือฉันไม่เคยพยายามมากเกินไปในการเอาใจใคร ผู้คนจะสัมผัสได้ว่าถ้ามีคนพยายามมากเกินไป มันจะให้ผลตรงข้าม นั่นคือสิ่งที่เกิดกับผู้หญิงที่แต่งตัวจัดจนเกินไป หรือผู้ชายที่พูดมากเกินไป ฉันไม่เคยเรียกร้องการยอมรับ ฉันแค่เป็นตัวของฉันเอง และมันก็ใช้ได้ผลอย่างน่าอัศจรรย์”
เธอยังกล่าวอีกว่า “ลอร์ดชาวอังกฤษและชีคอาหรับจูบมือฉันอย่างหยอกเย้า พร้อมให้คำมั่นถึงอนาคตอันสดใส”
ทนายความคนหนึ่งที่ใกล้ชิดกับเธอในช่วงนั้นกล่าวว่า แชปแมนมี “เสน่ห์เย้ายวน” และ “สวยงามอย่างหาตัวจับยาก” อีกทั้งเธอยังไม่หยุดยั้งในการเข้าสังคมกับผู้มีอำนาจและทรัพย์สิน
เพื่อนร่วมห้องอย่างเอเลนา (ที่ในหนังสือถูกเรียกว่าเวร่า) กล่าวในภายหลังว่า “เธอจะเข้าไปคุยกับผู้ชายทันทีถ้าเห็นว่าเขามีประโยชน์ แรกๆ ที่ฉันรู้จักเธอ เธอบอกถึงนักธุรกิจคนหนึ่งว่า ‘ฉันเคยนอนกับเขา ฉันไม่ชอบเรื่องบนเตียงกับเขา แต่ฉันต้องการเงินของเขา’”
ในช่วงเวลานั้น บอริส เบเรซอฟสกี (Boris Berezovsky) มหาเศรษฐีที่เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของปูติน อาศัยลี้ภัยในอังกฤษ เธอยอมรับว่าเธอรู้จักเขา และมีหมายเลขโทรศัพท์ของเขาอยู่ในเครื่อง เธอบอกว่าเขาเคยขอมีสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอปฏิเสธ เบเรซอฟสกีเสียชีวิตในปี 2013 ด้วยสถานการณ์ที่ยังคงคลุมเครือ ซึ่งเป็นจุดจบที่คนใกล้ชิดปูตินหลายคนเผชิญ
ในเกมสตริปโป๊กเกอร์ที่ลอนดอน เธอเล่าว่า “มือแรกฉันแพ้ ฉันถอดกางเกงในออก ซึ่งสร้างความพึงพอใจให้กับชายในวงอย่างยิ่ง” แต่หลังจากนั้นเธอกลับชนะและรักษาชุดเดรสไว้ได้ แถมยังได้งานกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เริ่มงานในเช้าวันรุ่งขึ้นทันที
เช้าวันต่อมา เจ้านายใหม่โทรปลุกเธอ “เธอชนะตำแหน่งงานในคืนก่อน ใช้ก้นสวยๆ นั่นลุกขึ้นมาได้แล้ว มาที่ออฟฟิศ กาแฟพร้อมแล้วนะ”
แชปแมนเล่าว่า เธอใฝ่ฝันอยากมาอังกฤษตั้งแต่ยังเด็ก และผ่านความสัมพันธ์กับอเล็กซ์ เธอก็สามารถมาและประสบความสำเร็จที่นี่ สร้างความพร้อมสำหรับการเป็นสายลับอย่างสมบูรณ์แบบ “หลายปีที่ฉันพยายาม และในที่สุดฉันก็ทำได้: ฉันมีนามสกุลอังกฤษ พาสปอร์ตอังกฤษ และแม้แต่คนขับแท็กซี่ยังนับว่าฉันเป็นคนอังกฤษแล้ว” เธอกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
เธอปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเธอยั่วยวนอเล็กซ์เพื่อได้สัญชาติอังกฤษเพื่อแทรกซึมโจมตีสหราชอาณาจักร ภายหลังการถูกเปิดโปงในฐานะสายลับ
ในหนังสือเล่มใหม่ เธอเล่าถึงความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานในชีวิตคู่กับอเล็กซ์เป็นครั้งแรก หลังจากผ่านช่วงเวลารักหวานชื่น เดินทางด้วยกันในแอฟริกา และแต่งงานในมอสโกตอนอายุ 20 ปี (อเล็กซ์เคยอ้างว่าทั้งคู่เคยมีเซ็กซ์บนเครื่องบินของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ระหว่างเดินทางสู่รัสเซีย)
เธอเล่าว่าเคยทอดทิ้งเขาให้นอนเร่ร่อนใต้สะพานวอเตอร์ลู ขณะที่เธอไม่มีเงินติดตัวเลย เธอเปิดเผยด้วยว่าเธอเคยตั้งท้องลูกของเขา แต่ต้องทำแท้งหลังจากถูกเขาข่มขืนอย่างรุนแรง ขณะพยายามเข้าไปช่วยเขาเพราะคิดว่าเขาป่วยหนักหลังจากทั้งคู่เลิกรากันไป ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เขาทำร้ายร่างกายเธออย่างโหดเหี้ยม
ขณะที่เธอยากจนไม่มีเงิน เธอหลอกคนรักเศรษฐีคนใหม่ว่าเธอตั้งท้องลูกของเขา (ไม่ใช่ของอเล็กซ์) ซึ่งเขาก็ยอมจ่าย 500 ปอนด์เพื่อค่าใช้จ่ายในการทำแท้ง แต่การทำแท้งครั้งนั้นเกิดภาวะแทรกซ้อนจนเธอเกือบเสียชีวิต และต้องเข้าห้องไอซียู
เธอเล่าว่าเธอตัดสินใจหย่ากับอเล็กซ์แม้จะยังรักเขาอยู่ “ฉันมั่นใจว่าหากไม่ตัดขาดบานประตูบานนี้ ประตูบานใหม่จะไม่มีวันเปิด” เธอเขียน “ไม่กี่ปีต่อมา ฉันจะได้ยินประโยคนี้จากประธานาธิบดีของประเทศฉัน ในการพูดคุยส่วนตัวที่ทำเนียบของเขา…” นี่คือการบอกเป็นนัยว่า เธอเคยได้พูดคุยกับวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำสูงสุดของรัสเซีย ซึ่งอาจเป็นชายที่ร่ำรวยและมีอำนาจที่สุดเท่าที่เธอเคยพบมาในชีวิตอันน่าทึ่งของเด็กสาวจากเมืองโวลโกกราด
แม้จะเป็นเช่นนั้น หนังสือเล่มนี้อุทิศแก่ครอบครัวของเธอ และรวมถึงอเล็กซ์ด้วย เธอกล่าวว่า “ฉันพบสามีชาวอังกฤษคนนี้ตั้งแต่ปี 2001 ตั้งแต่นั้นมา ไม่มีชายใดมาทดแทนเขาได้… ชายผู้เคยเป็นสามีของฉันและจะอยู่ในหัวใจฉันตลอดไป – อเล็กซ์ แชปแมน”
ในชีวิตใหม่หลังการเปิดโปงที่มอสโก เธอกลายเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ พิธีกรรายการโทรทัศน์ ผู้มีอิทธิพลในสังคม และผู้สนับสนุนการโฆษณาชวนเชื่อให้ปูติน แต่เธอยังคงยืนยันว่าอเล็กซ์คือความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
เธอยังเล่าว่าวันก่อนอเล็กซ์เสียชีวิตในปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่เธอให้กำเนิดบุตรชาย เธอได้รับจดหมายจากเขา ในนั้นเขาเขียนถึงเธอว่า “เธอรู้ไหม แอนจิกิ (ชื่อเรียกที่เขาใช้แทนเธอ) ฉันเห็นเธอนะ ฉันไปลอนดอนเพื่อจัดการเอกสาร (หลังจากบำบัดยาเสพติด) ฉันเดินไปตามถนน เธอเดินออกจากร้านอาหารมากับผู้ชายคนหนึ่ง เธอหัวเราะ เขากอดเธอ แล้วทั้งสองก็ขับรถจากไป ฉันยืนอยู่ตรงนั้น จำไม่ได้ว่ากำลังจะไปไหน บางทีฉันควรจะเรียกชื่อเธอ แต่ฉันทำไม่ได้ ฉันไม่โกรธนะ ฉันรู้ว่าทุกอย่างเป็นความผิดฉันเอง ฉันอยากจะขอโทษสำหรับอารมณ์ฉันที่เมามาย ความโหดร้าย การเย้ยหยัน การแก้แค้น และความเจ็บปวดที่ฉันสร้างให้ เชื่อเถอะ ฉันไม่เคยอยากเป็นแบบนี้เลย ฉันอยากแก่อยู่ข้างเธอไปตลอดชีวิต ฉันรักเธอ แอนจิกิ เธอคือรักในชีวิตฉัน เธอทำให้มันดีขึ้นมาก เธอเติมเต็มชีวิตฉันด้วยความหมาย หากฉันไม่ได้พบและรักเธอ ชีวิตฉันคงว่างเปล่าไปเสียหมด”
แอนนาเขียนว่า “เช้าวันต่อมา แม่ของเขาพบว่าเขาเสียชีวิตแล้ว” ชันสูตรระบุว่าเขาเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด
เป็นที่คาดกันว่าสำหรับหนังสือเล่มนี้ ในรัสเซียภายใต้การปกครองแบบเข้มงวด แชปแมนซึ่งเป็นบุตรสาวของวาซิลี คุชเชนโก (เชื่อว่าเป็นสายลับภายใต้ตำแหน่งนักการทูต) คงต้องได้รับอนุญาตจาก SVR และต้องผ่านการตรวจสอบเนื้อหาอย่างละเอียด
เธอกล่าวว่าหนังสือเล่มนี้อิงจากเหตุการณ์จริง แต่มีการเปลี่ยนชื่อบุคคลบางราย และ “5% ของเหตุการณ์ในเรื่องเป็นเรื่องแต่ง ส่วนเรื่องใดบ้างนั้น เป็นความลับ”
ภาพจาก: anya.chapman