จำได้ไหม ‘เจมี่ บูเฮอร์’ อดีตนางร้ายยุค 90 หลังออกจากวงการบันเทิง ถูกใส่ร้ายว่าขายบริการ ปัจจุบันหันเข้าสู่เส้นทางธรรม สวมชุดขาวสลัดลุคตัวร้าย
เรียกได้ว่ายุค 90 เป็นทองที่มีนางเอก-นางร้ายแถวหน้าของเมืองไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝีมือการแสดงที่น่าจับตา หรือใบหน้าที่สวยคม ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หนึ่งในนั้นคือ “เจมี่ บูเฮอร์” หรือ ศศมล บูเฮอร์ (Jayme Booher) นักแสดงมากคงสามารถแจ้งเกิดจากผลงานการแสดงมากมายทั้งละครและภาพยนตร์ ก่อนจะหันหลังให้วงการบันเทิง เนื่องจากถูกผู้มีอิทธิพลในวงการบันเทิงกลั่นแกล้ง
จากนั้นเธอหายหน้าหายตาออกไปจากวงการจอแก้ว กระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สาวเจมี่กลับมารับหน้าที่พิธีกรร่วมกับ ‘โกบอย’หรือ ‘ธนวัฒน์ ชาวสมุทร’ ยูทูบเบอร์ชื่อดังเจ้าของช่อง KoBoyKrush พาผู้ชมไปติดตามตำนาน ตอนวัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะออกอากาศเร็ว ๆ นี้
แม้จะเห็นเพียงแค่ภาพถ่าย แต่ก็ทำเอาแฟน ๆ ได้หายคิดถึงอดีตนางร้ายเลยทีเดียว ซึ่งเจมี่ บูเฮอร์มาในลุคสาวเรียบร้อย สวมชุดเดรสยาวสีครีม สะพายกระเป๋าสีดำ และสวมรองเท้าสีดำ ร่วมทำบุญเติมน้ำพระประจำวันเกิด, ทำบุญมุงหลังคาโบสถ์ และถวายชุดสังฆทาน ณ วัดพนัญเชิง ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม
เส้นทางในวงการบันเทิงของ ‘เจมี่ บูเฮอร์’ ตำนานนางร้ายยุค 90
สำหรับ ‘เจมี่ บูเฮอร์’ หรือ ศศมล บูเฮอร์ เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 จบการศึกษาจากโรงเรียนปานะพันธุ์วิทยาในพระบรมราชูปถัมภ์ ก่อนจะได้แคสต์งานหน้ากล้อง ประเดิมผลงานแรกคือ โฆษณาเอเวอร์เซนส์ และภาพยนตร์สุดเลื่องชื่อ ‘ไนน์ตี้ช็อก เตลิดเปิดโลง’
เส้นทางในวงการบันเทิงของเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเธออายุ 15 ปี ในปี 2540 เธอได้รับบทบาทในการแสดงละครช่อง 7 เรื่อง ‘อำนาจ’ และ ‘อินทรีแดง’ จากนั้นเธอได้ฝากฝีมือการแสดงไว้ในละครหลายเรื่องตลอดระยะเวลาหลายปีโดยมีเรื่องที่โดดเด่นคือ ‘เงาอโศก’ ในปี 2542 ต่อมาในปี 2546 เรื่อง ‘ห้องหุ่น’ และในปี 2553 กับละครสุดตราตรึงใจอย่างเรื่อง ‘คุณชายตำระเบิด’
ก่อนที่เธอจะหันหลังให้กับวงการละครได้ เจมี่ได้แสดงละครเรื่องสุดท้ายคือ ‘เพลิงรักไฟมาร’ เมื่อปี 2560
เผยสาเหตุหันหลังให้วงการบันเทิง ถูกใส่ร้ายขายบริการ
ในปี 2566 เจมี่ บูเฮอร์ ได้ออกมาเล่าถึงสาเหตุที่เธอออกจากวงการบันเทิง และเลิกเล่นละครผ่าน TikTok ส่วนตัว userjayboo เนื่องจากถูกผู้ใหญ่ในวงการดิสเครดิต กล่าวหาว่าขายตัว เพียงเพราะกันซีนไม่อยากให้ร่วมงานกับค่ายอื่น เธอเล่าว่าผู้หญิงคนคนหนึ่งและสามีพูดจาใส่ร้าย โดยบอกคำกล่าวเท็จนั้นกับผู้จัดละคร เป็นการดิสเครดิตทำให้ผู้จัดคนนั้นไม่อยากร่วมงานด้วย
ตัวเธอมองว่าการกระทำเช่นนี้เรียกว่า อันธพาล เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนประเภทนี้ แต่พอยิ่งหนีเขาก็ยิ่งทำร้ายเราเพื่อที่จะให้เราซมซานไปทำงานกับใครไม่ได้เลยต้องกลับไปหาเขา
วันหนึ่งเธอได้ไปที่งานเลี้ยงของช่อง ผู้ใหญ่ในวงการคนดังกล่าวนั่งอยู่กับในโต๊ะที่มีผู้บริหารช่องใหญ่ ซึ่งเขาพูดให้ทุกคนฟังว่าเธอขายบริการ ทำงานไซด์ไลน์ พูดจาใส่ร้ายเธอ อีกทั้งทวงบุญคุณที่เคยหางานให้ทำ ได้รายได้จากสปอนเซอร์จนสามารถสร้างตัวซื้อของ ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เธอไม่ได้รับงานละครและหันหลังให้กับวงการบันเทิง จึงหันมาทำคลิปใน TikTok userjayboo แทน แต่ก็ไม่วายถูกผู้ใหญ่ท่านนั้นตามมาส่องดู มองว่าเป็นการนำชื่อเสียงที่สร้างมา เอามาใช้ประโยชน์และหารายได้ให้กับตนเอง หากเธอไม่ยอมกลับไปทำงานด้วยกันจะหาวิธีการมาทำลายอีก
ส่วนในวงการบันเทิงถ้าเธอไปเล่นละครที่ไหนผู้ใหญ่จะยกหูหาทีมงานและใส่ร้ายเจมี่ด้วยเรื่องที่เป็นเท็จและปราศจากหลักฐานใด ๆ
สำหรับแฟน ๆ ที่คิดถึงสาวเจมี่อย่าลืมไปติดตามชมรายการของโกบอย ตอนวัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านช่องยูทูป KoBoyKrush ซึ่งจะออกอากาศเร็ว ๆ นี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง