เปิดรับความท้าทายและโอกาสต่าง ๆ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์สำหรับสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศได้เลือกอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการส่งมอบประกาศิตเด็ดขาดให้กับเขาและพรรครีพับลิกัน หรือในอีกชื่อคือ “Grand Old Party (GOP)”
ประธานาธิบดีผู้ได้รับการเลือกตั้งคนนี้ได้รับชัยชนะเหนือกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีคนปัจจุบันด้วยคะแนนเสียงข้างมากและขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ท่ามกลางความกังขาที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อหลังการระบาดใหญ่ที่ยืดเยื้อยาวนานและการขาดความเชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลไบเดนที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจ โดนัลด์ ทรัมป์จึงได้รับชัยชนะในการลงคะแนนเสียงระดับประเทศ
คำสัญญาของเขาที่จะ “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” และ “แก้ไขเศรษฐกิจ” นั้นมีรากฐานมาจากแผนเศรษฐกิจของสก็อตต์ เบสเซนต์ นักการเงินระดับโลก ซึ่งมีแนวโน้มจะเข้ามาเป็นผู้ชิงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง โดยแผนดังกล่าวอิงตาม “ศรสามดอก” ของอาเบะโนมิกส์ ซึ่งเป็นนโยบายเศรษฐกิจที่ญี่ปุ่นนำมาใช้ในยุคที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง
กฎของทรัมป์ซึ่งเรียกกันว่า “ทรัมโปโนมิกส์ 2.0” ที่อิงตามนโยบายสามข้อของอาเบะ มีศูนย์กลางอยู่ที่สิทธิพิเศษต่อไปนี้:
- เศรษฐกิจเติบโต 3%
- ลดการขาดดุลให้เหลือ 3% ของ GDP
- เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีก 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
คำสั่งเหล่านี้มุ่งแก้ไขทั้งความหวาดกลัวทางเศรษฐกิจของชาวอเมริกันที่ลงคะแนนให้ทรัมป์ และอาจเป็นตั๋วเดินทางสู่การเติบโตของประเทศอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จะเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งก็คือหลังจากผ่านไปแล้วหนึ่งร้อยวันแรก แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีหรือในระยะยาวต่อตลาดการเงินมีอะไรบ้าง?
กล่องสุ่ม
นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนกำลังเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในตลาดการเงิน สกุลเงินต่างๆ โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ หุ้น ทองคำ น้ำมัน และบิตคอยน์ต่างเผชิญกับความผันผวนอย่างมากนั้นแล้ว
ในขณะที่ความไม่แน่นอนด้านผลลัพธ์ลดลง ดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ โดย EURUSD ปรับขึ้น 0.45% และ USDJPY เพิ่มขึ้น 0.020%
การที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ตลาดหุ้นได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยดัชนีสหรัฐอย่าง S&P 500 ที่เพิ่มขึ้น 1.2% ก็สร้างผลกำไรอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน ต่อด้วยดัชนี NASDAQ 100 ซึ่งเน้นสินค้าเทคโนโลยีก็พุ่งขึ้น 1.4% ในวันที่ 5 พฤศจิกายน เนื่องจากเทรดเดอร์ได้คำนวณรวมชัยชนะของทรัมป์ไว้แล้ว
บิตคอยน์พุ่งสูงถึง $75,000 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดใหม่ ท่ามกลางกระแสแรงเสี่ยงลงทุนที่เพิ่มขึ้น ในวันที่ 14 พฤศจิกายน คริปโตเคอเรนซี่หลักพุ่งแตะระดับ $90,000 เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเซสชันที่ตลาดตื่นเต้นเร้าใจ โดยสินทรัพย์ดิจิทัลอันมีค่านี้ทำกำไรยาวต่อเนื่องถึง 7 วัน
นักวิเคราะห์เชื่อมโยงราคาบิตคอยน์ที่พุ่งสูงอย่างน่าตื่นตาตื่นใจเข้ากับรอบการเลือกตั้งของสหรัฐ ในปี 2012 ตอนที่โอบามาชนะการเลือกตั้งเข้าทำเนียบขาว บิตคอยน์ก็พุ่งสูงขึ้น 86% และในทำนองเดียวกัน เมื่อทรัมป์ได้รับเลือกตั้งในปี 2016 ก็เพิ่มขึ้น 44% โดยมีจุดสูงสุดในปี 2020 เมื่อไบเดนได้รับเลือกตั้ง โดยพุ่งขึ้นถึง 145%
ที่น่าสังเกตคือ การเพิ่มขึ้นของราคาดูเหมือนจะเป็นรูปแบบทุกๆ 4 ปี โดยทับซ้อนกับช่วงเวลาที่บิตคอยน์ลดรางวัลการขุด โดยจะถูกตัดไปครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพที่น่าทึ่งของคริปโตยังได้รับการสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับที่เป็นมิตรกับคริปโตของทรัมป์อีกด้วย แต่ผู้เทรดคริปโตก็จะต้องฝึกฝนการบริหารความเสี่ยงและติดตามข่าวสารต่างๆ เนื่องจากแนวโน้มการถอยกลับอย่างกะทันหันอาจอยู่ไม่ไกลนัก
ในอีกด้านหนึ่ง ราคาทองคำถอยลงมาจากระดับสูงสุดที่ $2,790.01 โดยถูกดันลงมาเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะปรับลดลงแถว $71.89 จากความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการยกเลิกกฎระเบียบ นโยบายภาษีศุลกากร และการเพิ่มกำลังการผลิตของทรัมป์
เทรดเดอร์สามารถเปิดรับความเสี่ยงจากสินทรัพย์อ้างอิงทั้งหมดเหล่านี้ รวมถึงหุ้นที่เน้นด้านทรัมโปโนมิกส์ เช่น หุ้น Trump Media & Technology Group Corp (NASDAQ: DJT) ผ่านสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) กับ Libertex ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมการเทรดออนไลน์
ก้าวเข้าสู่ทรัมโปโนมิกส์ 2.0 ไปกับ Libertex
เพื่อตอบสนองเทรดเดอร์ที่ต้องการเทรดสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ Libertex จึงเริ่มให้บริการ CFD ในหุ้น DJT การดำเนินการดังกล่าวจะขยายขอบเขตตราสาร CFD ที่มีอยู่แล้วมากมายมหาศาลบนแพลตฟอร์ม MT5 ของโบรกเกอร์และบนแพลตฟอร์มเทรดของเราเอง ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกระจายการเปิดรับความเสี่ยงในสินทรัพย์อ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับโดนัลด์ ทรัมป์ได้ ซึ่งอาจมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทรัมป์จะบังคับใช้เป็นกฎหมาย
การเพิ่มใหม่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Libertex ที่มีต่อลูกค้า และความสามารถของโบรกเกอร์ในการอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลงของตลาด และสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เป็นเอกลักษณ์ที่ตรงตามความต้องการของทั้งเทรดเดอร์มากประสบการณ์และมือใหม่
CFD หุ้น DJT ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและมีความผันผวน ราคา DJT เคยร่วงลงถึง 5.31% บนแพลตฟอร์ม CFD ของ Libertex โดยดิ่งลงอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงที่สงครามระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์กับกมลา แฮร์ริสถึงจุดเดือดสุด
ความผันผวนดังกล่าวนั้นมาพร้อมกับทั้งความเสี่ยงและโอกาส ด้วยเหตุนี้จึงขอแนะนำให้เทรดเดอร์ใช้ความระมัดระวังและใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มของ Libertex ให้เกิดประโยชน์
เครื่องมือต่างๆ เช่น Stop Loss, Take Profit และ Limit Order ผสานรวมกับนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่ครอบคลุมจะช่วยเทรดเดอร์บรรเทาความเสี่ยงในการเทรดได้
นอกเหนือจาก CFD หุ้น DJT แล้ว เทรดเดอร์ยังสามารถเปิดรับความเสี่ยงจากสินทรัพย์อ้างอิงอื่นอีกหลายร้อยรายการได้ผ่านทางสัญญาซื้อขายส่วนต่าง เช่น ฟอเร็กซ์, คริปโตเคอเรนซี่, ETF, พันธบัตร, ออปชั่น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์ และโลหะมีค่า
สเปรดและเลเวอเรจที่ให้ความได้เปรียบและเทคโนโลยีอันทรงพลัง รวมถึงเครื่องคำนวณการเทรด เครื่องมือสร้างกราฟ และตัวชี้วัดต่างๆ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดรับโอกาสทั้งหมดที่ทรัมโปโนมิกส์นำมาให้ได้อย่างมั่นใจ
การศึกษาก็เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการเทรดที่ Libertex เช่นกัน ส่วนการศึกษาของโบรกเกอร์ให้สิทธิ์เข้าถึงบทเรียนที่ครอบคลุมในหัวข้อต่างๆ มากมาย ตั้งแต่พื้นฐานการเทรด รูปแบบกราฟ และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ไปจนถึงข้อมูลเชิงลึกพิเศษเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน
เทรดเดอร์ที่ต้องการเพิ่มพูนทักษะการเทรดสามารถดูเนื้อหาเพิ่มเติมได้ในบล็อกของ Libertex ซึ่งมีการเจาะลึกถึงรายละเอียดของการเทรดในตลาดการเงิน
การสัมมนาผ่านเว็บ พ็อดคาสท์ คู่มือ และวิดีโอบทแนะนำช่วยเติมเต็มเนื้อหาการศึกษาที่โบรกเกอร์ได้ทำการคัดสรรมา ช่วยให้เทรดเดอร์มีความรู้ที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมาย
เนื้อหาอันหลากหลายที่ผสมผสานกับเครื่องมือบริหารความเสี่ยงขั้นสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทำให้ Libertex มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นคลังแสงการเทรดที่ช่วยให้เทรดเดอร์มีความได้เปรียบ หากต้องการดูข้อเสนอของโบรกเกอร์ โปรดไปที่เว็บไซต์
*หมายเหตุ: ข้อมูลราคาและอัตราส่วนทั้งหมดอิงตามราคาสินทรัพย์ในกราฟรายวันและรายเดือนที่มีอยู่ในแพลตฟอร์ม Libertex