ข่าว

อาจารย์ มก. ค้นพบ ‘กระเจียวสรรพสี’ พืชชนิดใหม่ของโลก ที่พระธาตุผาแดง จ.ตาก

ก้าวสำคัญ ‘ดร. ศุทธิณัฏฐ์’ อาจารย์ ม.เกษตรศาสตร์ ค้นพบ ‘กระเจียวสรรพสี’ พืชชนิดใหม่ของโลก พืชถิ่นเดียวของประเทศไทย ที่อ.พระธาตุผาแดง จ.ตาก

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร เปิดเผยข่าวสำคัญของวงการพฤกษศาสตร์แห่งประเทศไทย ว่า ดร. ศุทธิณัฏฐ์ สุนทรกลัมพ์ อาจารย์สังกัดภาควิชาเกษตรและทรัพยากร คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร ได้รายงานการค้นพบ กระเจียวสรรพสี (Curcuma diversicolor Soonthornk) พืชชนิดใหม่ของโลก และเป็นพืชถิ่นเดียวของประเทศไทย พบกระจายพันธุ์อยู่ในป่าชุมชนของอำเภอพระธาตุผาแดง จังหวัดตาก

Advertisements

การค้นพบครั้งนี้ ‘ดร. ศุทธิณัฏฐ์’ เป็นการร่วมมือกับคนในชุมชนเพื่อติดตามผลวิจัยกว่า 4 ปี จนมั่นใจว่าเป็นกระเจียวชนิดใหม่ของโลก และตีพิมพ์รายงานลงในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Annales Botanici Fennici ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ออนไลน์ในวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา

กระเจียวสรรพสี มีความพิเศษคือ มีใบประดับ (bracts) ที่มีที่สีสันหลากหลาย จึงเป็นที่มาของชื่อ กระเจียวสรรพสี และมีชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Harlequin curcuma ซึ่งสอดคล้องกับชื่อวิทยาศาสตร์คือ Curcuma diversicolor ซึ่งมีความหมายว่ามีหลายสี เช่นเดียวกัน

ค้นพบ กระเจียวสรรพสิ ชนิดใหม่ของโลก
ภาพจาก : คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร

กระเจียวสรรพสีเป็นพืชล้มลุกสูงได้ถึง 80 เซนติเมตร มีลำต้นใต้ดินรูปไข่หรือรูปทรงลูกแพร์ ลำต้นใต้ดินมีการแตกแขนง เนื้อด้านในลำต้นสีเหลืองครีม ก้านใบมักมีสีน้ำตาลแดงที่ฐาน ใบรูปรี แผ่นใบพับจีบมีสีเขียวมักมีแถบสีแดงที่เส้นกลางใบ ช่อดอกออกก่อนเกิดใบ ออกที่ด้านข้างของลำต้น ก้านช่อดอกสั้น ช่อดอกมีความยาว 8.2 – 15 เซนติเมตร และกว้าง 6 – 7.5 เซนติเมตร

ประกอบด้วยใบประดับได้มากถึง 40 ใบ มีสีสันหลากหลายตั้งแต่สีขาวถึงสีชมพูอมม่วง และมักมีแต้มสีเขียวถึงสีชมพูที่ปลาย ดอกยาวประมาณ 6 เซนติเมตร ส่วนกลีบดอกมีสีชมพูอ่อนถึงสีครีมมีแต้มสีชมพูอ่อนที่ปลาย สเตมิโนดรูปขอบขนานเบี้ยว มีสีขาวครีมถึงสีเหลืองครีม กลีบปากรูปไข่มีแถบสีเหลืองหรือครีมที่กึ่งกลางของกลีบปากส่วนปลายกลีบปากแยกเป็นสองพู ก้านอับเรณูมีสีเหลือง อับเรณูสีขาวมีเดือยแหลม 1 คู่ รังไข่มีขนสั้นนุ่มปกคลุม

ปัจจุบันยังไม่มีการใช้ประโยชน์โดยคนท้องถิ่น และไม่พบการคุกคามต่อประชากรในธรรมชาติ แม้ว่ากระเจียวสรรพสีจะมีประชากรขนาดใหญ่ในถิ่นอาศัยธรรมชาติ แต่ พบการกระจายพันธุ์เพียงแหล่งเดียวทำให้ขาดข้อมูลในการประเมินสถานภาพการอนุรักษ์เบื้องต้นจึงจัดอยู่ในกลุ่ม ข้อมูลไม่เพียงพอ (Data Deficient; DD)

Advertisements

อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการลดผลกระทบของการลดจำนวนจากแหล่งธรรมชาติในอนาคต ทางผู้วิจัยจึงได้ทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อเป็นการอนุรักษ์นอกถิ่นอาศัย (ex situ conservation) เพื่อเก็บรวบรวมพันธุ์สกุลกระเจียวชนิดต่าง ๆ ของประเทศไทยเพื่อการวิจัยและอนุรักษ์ ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร เพื่อใช้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัยขั้นสูงทางพฤกษศาสตร์ และจากสีสันหลากหลายและสวยงามของช่อดอก ประกอบกับสามารถในการบานได้นานกว่า 1 เดือน จึงมีศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดเป็นไม้ดอกไม้ประดับได้ในอนาคตต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button