ข่าว

หวั่นวิกฤตซ้ำ พายุ ‘เบบินคา’ เฉียดถล่มไทย จับตาเส้นทางใกล้ชิด

ตามติดเส้นทางพายุโซนร้อน “เบบินคา” กำลังก่อตัวในโซนเอเชีย เช็กผลกระทบต่อไทย เสี่ยงเกิดวิกฤติน้ำท่วมซ้ำอีกครั้งไหม กรมอุตุนิยมวิทยาตอบแล้ว ยังต้องเฝ้าระวังจับตาใกล้ชิด

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังคงน่าเป็นห่วง กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนถึงพายุโซนร้อน “เบบินคา” (BEBINCA) อีกลูก ที่กำลังก่อตัวและมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นใน ทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศในประเทศไทยในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้

Advertisements

เส้นทางพายุ “เบบินคา” กระทบต่อประเทศไทยไหม

รายงานการวิเคราะห์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและข้อมูลจาก RSMC Tokyo Japan เปิดเผยว่า เวลา 04.00 น. เช้าวันนี้ (12/9/67) พายุ “เบบินคา” อาจไม่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ก็จะส่งผลกระทบทางอ้อมต่อสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 13-17 กันยายน 2567

เส้นทางของพายุเบบินคาในโซนใกล้ประเทศไทย

ร่องมรสุมจะแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่กำลังแรงขึ้น จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เส้นทางพายุโซนร้อน เบบินคา เริ่มก่อตัวบริเวณญี่ปุ่น มุ่งมาจีน ลุ้นมาไทย

Advertisements

ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ควรเฝ้าระวังฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันในช่วงวันที่ 13-17 กันยายน 2567 นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังต้องระวังปัญหาน้ำท่วมขังและน้ำรอการระบายเนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย

พายุเบนบินคา พายุโซนร้อน ทะเลจีนใต้

กรมอุตุนิยมวิทยาแนะนำให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

เส้นทางพายุเบบินคา อาจเข้าใกล้ประเทศไทย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : กรมอุตุนิยมวิทยา

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button