ภูเก็ต – เริ่มกู้เรือฟินิกซ์รอบใหม่วันนี้ หลังบริษัทที่กรมเจ้าท่าว่าจ้างกู้ไม่สำเร็จ ปัญหาสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ขอเครนขนาด 1 พันตันจากสิงคโปร์ยกเรือพ้นน้ำ ภายใน 5 วัน ส่งทีมสอบสวน พิสูจน์หลักฐานและผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที
ภายหลังจากที่เกิดเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 คน เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางกรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน เข้ามาดำเนินการกู้เรือฟินิกซ์จมอยู่ใต้ทะเลใกล้ๆกับเกาะเฮ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในน้ำลึกประมาณ 45 เมตร
เนื่องจากซากเรือลำดังกล่าวเป็นวัตถุพยานทางคดีชิ้นสำคัญในการเอาผิดดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปเพื่อไม่ได้กีดขวางการเดินเรือและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเล
โดยบริษัทเอกชนได้เริ่มดำเนินการกู้ซากเรือมาตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2561 เป็นต้นมา โดยได้ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ใต้น้ำหลักๆ 3 ชนิด คือ 1.บอลลูน ความจุ 10,000 ลิตร ที่จะนำลงไปยกเรือใต้น้ำ 2.กว้าน เป็นสลิง ที่จะยกผูกติดกับเรือและยกขึ้นมา 3.เครนตัวใหญ่ จะทำการค่อยๆ ยกเรือขึ้นมานั้น
แต่ปฏิบัติการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจาก ทะเลมีคลื่นลมแรงและกระแสน้ำใต้ทะเลค่อนข้างแรง จึงทำให้ปฏิบัติการล้มเหลว บริษัทเอกชนที่ดำเนินการขอยกเลิกภารกิจดังกล่าวไปแล้ว
โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เปิดเผยที่นจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ทางกรมเจ้าท่าได้ยกเลิกปฏิบัติกู้เรือฟินิกซ์แล้ว เนื่องจากบริษัทเอกชนได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ หลังจากนี้การกู้เรือจะเป็นหน้าที่ของทางตำรวจ
ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการกู้ซากเรือฟินิกซ์ ว่า เมื่อวันที่ 5-6 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำการรื้อถอนอุปกรณ์เก่าที่ใช้กู้ซากเรือ ซึ่งเป็นเพียงบอลลูนที่ไม่สามารถยกซากเรือขึ้นมาได้ เนื่องจากสภาพอากาศทำเอื้ออำนวย อาจทำให้พยานหลักฐานที่สำคัญ คือ ตัวเรือได้รับความเสียหายได้
รัฐบาลจึงได้ประสานนำเรือเครนขนาด 1,000 ตัน จากศสิงคโปร์ มากู้เรือฟินิกซ์รอบใหม่ ซึ่งมีหนัก 200 ตัน โดยจะเริ่มเตรียมการกู้ซากเรือตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.นี้ และคาดว่าใช้เวลาประมาณในการกู้ซากเรือดังกล่าวประมาณ 5 วัน
รรท.ผบช.สต กล่าวต่อว่า หลังจากกู้ซากเรือฟินิกซ์ขึ้นมาแล้ว ทางรอง ผบ.ตร.พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม จะนำชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ลงปฏิบัติหน้าที่ร่วมกัน เพื่อตรวจสอบเรือลำดังกล่าวว่า ไม่ได้มาตรฐานอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะประตูระบายน้ำหรือกระจกนิรภัยต่างๆ เพื่อนำหลักฐานทั้งหมดทำสำนวนส่งอัยการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
