หลังจากเหตุหารณ์ที่นักท่องเที่ยวสาชาวอังกฤษวัย เข้าแจ้งความกับเข้าหน้าที่ตำรวจ ว่าเธอโดนขืนใจขณะมาท่องเที่ยวบนเกาะเต่า และทรัพย์สินของเธอก็ยังถูกขโมยไป แถมยังอ้างว่าตำรวจไม่รับแจ้งความด้วย
หลังจากนั้นเรื่องราวของเธอก็เป็นที่จับตามองเนื่องจากมีเพจเฟสบุ๊คดังได้นำเรื่องของเธอไปโพสต์และได้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์อย่างมากมาย ต่อมาตำรวจได้เร่งตรวจสอบและเช็กวงจรปิด โดยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท.ในขณะนั้น ได้เข้ามาตรวจสอบคดีนี้ด้วยตัวเอง ก่อนเช็กข้อมูลในทุกประเด็น ทั้งพยานบุคคล รวมถึงการจำลองสถานการณ์ ทั้งน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งลักษณะทางกายภาพ จุดที่ผู้เสียหายบอกว่านั่งดื่มกินอยู่ระดับน้ำขึ้นสูง โดยระบุว่านั่งอยู่บนหาดทราย ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 14 ค่ำ ช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง แต่จุดนั้นจะมีน้ำขึ้นสูงถึงหน้าร้าน ไม่มีใครไปนั่งได้ เพราะน้ำสูงถึงเข่า
และยังมีประเด็นที่ผู้เสียหายให้การอีกว่าถูกมอมยา แล้วพาไปข่มขืนที่โขดหินซึ่งห่างจากจุดที่อ้างว่าถูกมอมยาเป็นระยะทางเกือบ 300 เมตร โดยวันนั้นมีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกคู่สำคัญ ทำให้ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยมีมากกว่าปกติ ประชาชนก็มีมากกว่าปกติ การที่จะอุ้มใครไปบนทะเลที่มีพระจันทร์เต็มดวงแสงไฟส่องสว่างชัดจะเห็นภาพชัดเจน ถ้ามีการอุ้มคนเดินจะต้องมีคนเห็น จึงทำให้ในส่วนของคดี เจ้าหน้าที่จึงยุติเพียงเท่านี้ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ 
ล่าสุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เตรียมแถลงข่าวคดีนี้อีกครั้ง หลังพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ส่งทีมสืบสวนบินไปประเทศอังกฤษ เพื่อสอบปากคำเหยื่อสาวและตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าของเหยื่อสาว และหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ก่อนนำข้อมูลและคำให้การกลับมาสรุปถึงความคืบหน้าคดีนี้อีกครั้ง
ข้อมูลเพิ่มเติม : Khaosod.co.th
