สามีทนทุกข์ 55 ปี เมียเป็นไบโพลาร์ ริบเงินเก็บหมด แถมเคยถูกไล่ออกจากบ้าน
ทนไม่ไหวแล้ว ชายชรายื่นฟ้องหย่าภรรยา เหตุถูกทรมานนานถึง 55 ปี โดนด่าสารพัด เงินที่หาได้ถูกริบหมด เปิดแอร์กับอาบน้ำที่บ้านไม่ได้ หนักสุดคือถูกไล่ออกจากบ้าน
นายเฉิน ชายชราวัย 83 ปี ฟ้อง นางจาง ภรรยาคู่ชีวิตวัย 80 ปี หลังเขาอ้างว่า เธอคือตัวการทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานมาตลอด 55 ปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เนื่องจากเธอได้ยึดเงินกว่า 60 ล้านหยวน (ประมาณ 302 ล้านบาท) ที่เขาหามาทั้งชีวิตไว้ ทั้งเธอยังป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำและไบโพลาร์ ทำร้ายร่างกายและจิตใจของเขาอย่างสารพัด
เหตุการณ์เริ่มต้นต้องย้อนกลับไปในปี 2512 ทั้งคู่ได้แต่งงานกันอย่างชื่นมื่น แต่ในระยะเวลาการใช้ชีวิตคู่ที่ยาวนานถึง 55 ปี กลับมาแต่บาดแผลและความเจ็บช้ำ นายเฉินอ้างว่า ภรรยาของเขาป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ และโรคไบโพลาร์ ส่งผลให้เขาต้องถูกควบคุมการเงินภายในบ้าน ทำให้ไม่สามารถเปิดแอร์หรืออาบน้ำที่บ้านได้เลย และถูกบังคับให้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัย เพื่อที่จะสามารถใช้ห้องน้ำมหาวิทยาลัยในการอาบน้ำและปลดทุกข์ หนำซ้ำยังถูกภรรยาและลูกไล่ออกจากบ้านอีกต่างห่าง
เมื่อความอดทนมาถึงจุดสิ้นสุด นายเฉิน จึงเลือกฟ้องหย่ากับภรรยาที่ศาล ภายหลังศาลได้อนุมัติการหย่าให้ แต่ตามกฎหมาย นายเฉินจะได้รับทรัพย์สินคืนเพียง 25 ล้านหยวนเท่านั้น (ประมาณ 126 ล้านบาท) จากรายละเอียดคำพิพากษาของศาล ระบุว่า นายเฉินกล่าวหาว่าภรรยาเป็นคนที่ควบคุมเขาทุกอย่าง ชอบทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย ตัดสวิตช์น้ำโดยพละการ บังคับเขาให้ไปอาบน้ำที่มหาวิทยาลัยนานหลายปี ไม่ให้เปิดแอร์และอาบน้ำในบ้าน และต้องทนถูกดูถูกด้วยถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจ อาทิ ไอ้แก่ไร้น้ำยา ไอ้ขี้แพ้ ไอ้แมงดา อยู่เสมอ
ถึงแม้สมัยที่นายเฉินทำงานเป็นพนักงานบริษัท จะมีฐานเงินเดือนสูง แต่สุดท้ายเงินทุกหยวนก็ถูกภรรยาควบคุม หนำซ้ำยังถูกภรรยากล่าวหาว่าแอบนอกใจ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานมายืนยัน อีกทั้งภรรยายังมีอาการชอบสะสมของ จึงทำให้บ้านรกมากจนแทบไม่ทางเดินในบ้าน
หลังจากนายเฉินป่วยเป็นโรคพาร์คินสัน และโรคสมองเสื่อม ภรรยาของเขากลับไม่พาเจ้าตัวไปพบแพทย์เพื่อรักษา แต่ยังคงถูกภรรยาเหยียดหยามและซ้ำเติมอยู่เรื่อย ๆ และที่น่าสลดที่สุด คือการที่นายเฉินถูกภรรยาและลูกชายไล่ออกจากบ้าน จนต้องเป็นชายชราที่ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพัง
ลูกสาวของนายเฉิน เบิกความต่อศาลว่า เงินทุกหยวนที่บ้านได้ใช้นั้น มาจากน้ำพักน้ำแรงของพ่อตนทั้งสิ้น เธอต้องทนเห็นพ่อถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจมานานหลายปี เนื่องจากกลัวเสียหน้า จึงไม่สามารถขอความช่วยเหลือกับผู้อื่นได้ ทำให้พ่อของเธอต้องเป็นเหยื่อในการใช้ความรุนแรงในครอบครัว
สุดท้าย ศาลจึงตัดสินให้มีการหย่า หลังจากตรวจสอบพบว่า นายเฉินมีทรัพย์สินทั้งหมดมูลค่า 60 ล้านหยวน (ประมาณ 302 ล้านบาท) และเงินบำนาญ 9 ล้านหยวน (ประมาณ 45 ล้านบาท) แต่ทรัพย์สินส่วนใหญ่กลับอยู่ในนามของภรรยา ส่วนตัวนายเฉินมีทรัพย์สินติดตัวน้อยกว่า 9 ล้านหยวน (ประมาณ 45 ล้านบาท)
แม้ว่าภรรยาจะอ้างกับศาลว่า ทรัพย์สินทั้งหมดนั้น เกิดจากการจัดการทางการเงินที่ยอดเยี่ยมของเธอ แต่ผู้พิพากษาฟังเหตุผลดังกล่าวไม่ขึ้น และติดสินว่าทรัพย์สินของเธอนั้น มาจากสามีทั้งหมด แต่หลังจากคำนวณส่วนต่างของทรัพย์สินที่เหลือระหว่างทั้งคู่แล้ว นายเฉินกลับได้เงินคืนเพียง 25 ล้านหยวนเท่านั้น (ประมาณ 126 ล้านบาท)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เดตแรกเกือบขิต สาวปวดหัวรุนแรง หลังนัดเจอหนุ่ม จนต้องเข้ารพ. ด่วน พบเลือดออกในสมอง
- ผัวเครียด กู้บ้านร่วมกับเมีย แต่เมียได้งานใหม่ เงินไม่พอผ่อน สุดท้ายผลักภาระ ให้ผัวผ่อนคนเดียว
- เห็นแก่ของถูก ชายชาวจีนซื้อปู 30 ลัง แกะมากินถึงรู้เหตุผล สูญเงินไปฟรี ๆ
ที่มา : ETtoday