ทรงผมผู้ชาย 2024 หล่อแบบไม่ตกเทรน เท่ได้ในสไตล์คุณ
ผู้ชายอย่างเรานั้น ใบหน้าที่หล่อเหลาก็อาจไม่ช่วยให้มีสเน่ห์ดึงดูดสาว ๆ ได้เท่ากับทรงผมสุดเท่ก็เป็นได้ เพราะทรงผมนั้น บ่งบอกถึงบุคคลิกภาพ และสไตล์ของตัวคุณได้อย่างชัดเจน ทรงผมเปรียบเหมือนมงกุฎมาช่วยเปร่งออร่าของเรา วันนี้ The Thaiger จึงจะพาเสือหนุ่มทั้งหลาย มาอัปเดททรงผมผู้ชายที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในปีนี้ ตัดตามกันได้หล่อเท่ทุกทรง
ทรงที่ 1 Undercut ทรงอันเดอร์คัต
เริ่มกันที่ทรงแรก กับทรงผมฮิตตลอดกาล นึกทรงไหนไม่ออก บอกช่างไปเลยว่า ทรงอันเดอร์คัต (Undercut) จัดทรงง่าย และใครทำก็รอด และนอกจากการไถผมออกเพราะเราไม่จำเป็นต้องตัดผมให้สั้นจนหมดก็ยังดูหล่อเซอร์ได้ ถือว่าตัดครั้งเดียวได้หลายลุค มีหลายระดับให้เลือกได้ตามชอบใจ จึงปรับให้เข้ากับหนุ่ม ๆ ได้ทุกสไตล์
ทรงที่ 2 Slicked Back ทรงสลิคแบค
ทรงฮิตที่เสริมลุคหล่อเนี้ยบได้ทุกเวลา ทรงสลิคแบค (Slicked Back) เป็นทรงที่จะวินเทจก็ไม่วินเทจซะเดียว เพราะว่าขึ้นอยู่กับการเซ็ตผมของเราด้วยนะ ถ้าอยากได้ลุคชายเนี๊ยบมาก ๆ ก็อันเดอร์คัทด้านข้างสั้นหน่อย เวลาเซ็ตปาดผมเปิดหน้าจะได้โชว์ความเท่ของใบหน้าแบบเต็ม ๆ จุดเด่นอยู่ที่การเซตผมให้เสยปาดเรียบไปด้านหลัง ซึ่งเราจะเห็นเหล่าคนดังทำผมทรงนี้ออกงานอยู่บ่อย ๆ
ทรงที่ 3 V Cut ทรงวีคัท
อัปเลเวลความเท่ให้ทรง Undercut ทั่ว ๆ ไป ด้วยการตัด ทรงวีคัท (V Cut) คือไถผมด้านหลังให้เป็นรูปตัววี ซึ่งเป็นทรงผมที่ตัดแล้วทำให้ศีรษะดูสูงเพรียว ส่งผลให้หน้าของเรานั้นเรียวยาวได้อีกด้วย
ทรงที่ 4 Surf Cut ทรงเซิร์ฟคัต
ทรงเซิร์ฟคัต (Surf Cut) อีกหนึ่งทรงผม ลุคคุณชายในวัง (สักวังหนึ่ง) ทำตามไม่ยากคุณผู้ชายที่อยากทำผมทรงนี้ต้องไว้ผมช่วงบนยาวสักหน่อย จากนั้นก็ไถผมด้านข้างออกพร้อมกับไล่เฟดเบา ๆ ให้ดูเท่ จุดเด่นของทรงก็อยู่ที่การจัดทรง และการไว้ยาวของเรานี่แหละ จะหล่อมากหล่อน้อยก้อยุ่ที่ฝีมือของคุณแล้วล่ะนะ
ทรงที่ 5 Two Block ทรงทูบล็อก
เอาใจพ่อหนุ่มสายโอปป้ากับทรงทูบล็อก (Two Block) ทรงที่เราจะเห็นได้ในหล่าไอดอลเคป็อป ฮิตสำหรับชายหนุ่มฝั่งเอเชีย มีความคล้ายกับทรง Undercut แค่ด้านบนจะซอยให้ดูมีเลเยอร์มาจนถึงช่วงหน้าม้า ซึ่งการสไลซ์แบบนี้จะทำให้ผมดูเป็นธรรมชาติ ไล่ระดับรับกับรูปหน้าอีกด้วย
ทรงที่ 6 Mullet ทรงรากไทร
คำที่บอกว่าเทรนนั้นจะวนกลับมาในจุด ๆ เดิมนั้นคงไม่เกินจริง เพราการกลับมาของ Mullet หรือที่รู้จักกันว่าทรงรากไทร นั่นเอง ทรงผมยุค 70 ด้วยเอกลักษณ์ของผมทรงนี้จะอยู่ที่ผมช่วงคอที่ยาวกว่าด้านข้าง อาจจะไถข้างใบหูเล้กน้อยจากนั้นก็ทำการสไลซ์ไล่ระดับไปจนถึงช่วงปลายผมก็จะได้ความเท่แบบนี้เลย
ทรงที่ 7 Dandy ทรงแดนดี
ทรงแดนดี (Dandy) เป็นทรงผมเรียบ ๆ ง่าย ๆ ที่ขึ้นทรงด้วยกรรไกรทั้งหมด จุดเด่นอยู่ตรงด้านหน้าปัดข้างนิด ๆ ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ งานละมุน ดูแล้วสบายตา ทั้งแบบเซตและไม่เซต
ทรงที่ 8 Medium Side Swept ทรงเปิดข้าง
Medium Side Swept หรือที่เรียกกันว่า ทรงเปิดข้าง นั่นเอง แต่เป็นการจัดแสกผมให้ปัดเป๋ไปด้านข้าง เมื่อทำออกมาก็จะให้ความหล่อแบบกร้าวใจทรงแบดบอยสุด ๆ เหมาะกับคนที่อยากไว้ผมยาวปานกลาง เวลาปัดข้างออกมาแล้วจะละมุนจนต้องมองตามกันเลยทีเดียว
ทรงที่ 9 Bro Flow ทรงโบรโฟร์
ทรงโบรโฟร์ (Bro Flow) ก็คือการไว้ผมยาวระดับปานกลางไม่ยาวจนมากเกินไป โดยทรงผมนี้จะช่วยให้คุณดูมีความเท่เซอร์ แต่ดูดีมีสไตล์ ซึ่งอาจจะมีการเติมลูกเล่นด้วยการมัดผมบ้างก็ยิ่งทำให้ทรงนี้ดูโดดเด่น วันไหนต้องออกงานก็อาจจะเซ็ตหนีบปลายผมเล็กน้อย
ทรงที่ 10 French Crop ทรงกะลาครอบ
อยากจะเป็นวายร้าย ตามแบบ URboy TJ ก็ต้องตัดทรงนี้เลยทรงกะลาครอบ หรือ French Crop เป็นการไล่เฟดขึ้นไปค่อนข้างสูง และตัดผมบริเวณหน้าผากให้ผมปรกหน้าลงมาเพียงเล็กน้อยแค่นั้นเลย เหมาะมาก ๆ กับอากาศเมืองไทย และหนุ่มขี้ร้อนอย่างเรา ๆ
ทรงที่ 11 Twist Out ทรงทวิสต์เอาท์
สาวกฮิปฮอปต้องคุ้นตากับผมทรงนี้แน่นอน สำหรับทรงผมชาย Twist Out บอกเลยว่าใครทำก็คูลแน่นอน ผมทรงนี้ทุกคนสามารถเลือกระดับความยาวได้ จะไว้สั้น ไว้ยาว หรือไว้ระดับปานกลางก็ยังได้ นอกจากนี้ทุกคนยังเพิ่มลูกเล่นได้ด้วยการไถไล่เฟดด้านข้าง หรือจะทำสีผมก็แล้วแต่สไตล์กันเลย
ทรงที่ 12 Shag ทรงปล่อยยาว
เอาใจคนที่ไม่ชอบตัดสั้นด้วยทรงปล่อยยาว (Shag) เป็นการไว้ผมยาวระดับกลาง ตัดให้เท่ากันทั่วทั้งศีรษะ แล้วเซตผมให้ดูยุ่งนิดหน่อย ให้ลุคเซอร์เท่ๆ แก้ปัญหาผมบางได้ดีทีเดียว
ทรงที่ 13 Spiky ทรงผมตั้ง
Spiky เป็นอีกทรงที่มีลูกเล่นตรงผมด้านบนจะถูกซอย และเวลาที่เราเซ็ตผมก็จะต้องเซ็ตให้ตั้งขึ้นแล้วจะเห็นได้ว่าผมมีเลเยอร์ที่ดูแปลกตาจากการซอยไล่ระดับ หรือถ้าใครอยากเพิ่มลวดลายก็สามารถกันผมข้าง ๆ ออกก็ดูเท่ไปอีกแบบ ถือว่าเป็นอีกทรงที่หนุ่มสายแฟต้องลอง
ทรงที่ 14 Comma Hair ทรงคอมม่า
Comma Hair อีกหนึ่งทรงผมยอดฮิตของโอปป้า เกาหลี เพราะว่าตัดแล้วต้องเซ็ตให้ได้ทรงเป็นลักษณะตัว ‘ (คอมม่า) นั่นเอง ผมทรงนี้ด้านหน้าจะมีความลอนอ่อน ๆ แบบธรรมชาติ คอนเฟิร์มว่าตัดแล้วเหมือนชาวเกาหลีแน่
ทรงที่ 15 Faux Hawk Fade ทรงรองทรงสูง
ทรงผมหลากเท็กเจอร์ ที่ตัดแล้วได้ความหลากหลายมาก ๆ อย่าง Faux Hawk Fade เริ่มจากการไถด้านข้างรอบหัว อาจจะทำเป็นไล่ระดับเอาก็ได้จากนั้นผมด้านบนจะไว้ยาวหน่อยแล้วสไลซ์เอาเพื่อให้มีเลเยอร์ที่ตอนเซ็ตมีความสั้นยาวให้เห็นชัดเจน แน่นอนว่าถ้าเราไม่เซ็ตผมก็จะปรกหน้าเล็กน้อยดูเซอร์ ๆ ธรรมชาติ
ทรงที่ 16 Comb Over ทรงหวีเสยแสกข้าง
Comb Over หรือ ทรงหวีเสยแสกข้าง ถือเป็นอีกหนึ่งทรงที่มีความคลาสสิก และสไตล์ที่ร่วมสมัยทำให้ทรงนี้ดูเท่ออกสไตล์วินเทจ สำหรับทรงผมชายทรงนี้เราหวีเสยแสกข้างจากข้างใดข้างหนึ่ง โดยจะให้ผมข้างที่สั้นกว่าส่วนผมด้านบนจะปล่อยยาวสักหน่อย เหมาะกับคนที่ผมน้อยหรือผมบาง จะช่วยอำพรางผมบริเวณที่มีน้อยได้ดี
ทรงที่ 17 Curly hair ทรงตัดลอน
อีกหนึ่งทรงยอดฮิตของวัยรุ่นเมกา นั่นก็คือ Curly hair ทรงตัดลอนทั่วทั้วหัวให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในยุคทองของวงเอฟโฟร่เลยก็ว่าได้ ใครเป็นหนุ่มเมกาต้อลองดูสักครั้งแล้วจะติดใจ
ทรงที่ 18 Bangs ทรงผมหน้าม้า
ทรงผมชายที่ฮิตและยังตัดกันทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง Bangs หรือที่เรียกกันว่าทรงผมหน้าม้านั่นเอง เป็นการตัดผมข้างหน้าให้ดูเหมือนเป็นหน้าม้า แน่นอนว่าจะช่วยทำให้ใบหน้าของหนุ่ม ๆ ดูเล็กลงอย่างแน่นอน ส่วนด้านข้างจะไถไล่ระดับก็ได้เอาตามความชอบกันเลย แค่นี้ก็ได้ลุคอปป้ามาแล้วแบบง่าย ๆ
ทรงที่ 19 Perm ทรงดัดวอลลุ่ม
สำหรับใครที่คิดว่าผมเรียบตรงนั้นดูน่าเบื่อหน่อย ๆ แต่ก็ไม่อยากจะดัดเป็นผมหยิก ก็แนะนำทรง Perm หรือการดัดวอลลุ่มผมนั่นเอง เน้นเป็นดัดลอนอ่อน ๆ ดัดลอนใหญ่กำลังดีจะช่วยทำให้ผมดูเป็นลอนธรรมชาติแถมหนามีวอลลุ่มอีกด้วย
ทรงที่ 20 Skinhead สกินเฮด
หนุ่มผมบางต้องทรงนี้เลย Skinhead ที่มีลักษณะไถเกรียนติดหนังหัว ทรงนี้เป็นทรงที่เห็นเส้นผมได้น้อยนิด มองไกลๆ เหมือนไม่มีผมด้วยซ้ำ ทำให้ไม่รู้ว่าผมหนาบางแค่ไหน จึงขอแนะนำให้หนุ่มๆ แก้ไขปัญหาด้วยทรงนี้เลย