แม่สุดแค้น ลูกสาวถูกกระบะชนแล้วชิ่ง คนขับยิ้มร่าไม่สะท้าน ทิ้งให้อาการสาหัส
ปวดใจ แม่เข้าร้องสื่อ หลังลูกสาวถูกรถกระบะชนแล้วหนี อาการสาหัส กระดูกข้อเท้าแตกละเอียด แจ้งตำรวจคดีไม่คืบ รวบรวมหลักฐานด้วยตัวเอง เปิดกล้องวงจรปิดช็อก คู่กรณีเปิดกระจกยิ้มเยาะ แม้พึ่งขับรถชนเด็กมา
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก โหนกระแส รายงานข่าว คุณแม่วัย 45 ปี เข้าร้องกับสื่อ หลังลูกสาววัย 16 ปี ถูกรถกระบะปริศนาชนแล้วหนี กระดูกแตกละเอียด บาดเจ็บสาหัส แจ้งความตั้งแต่ 6 มีนาคม 2567 แต่คดีไม่คืบ จึงรวบรวมหลักฐานยื่นตำรวจ เปิดภาพวงจรปิดสุดช้ำใจ อีกฝ่ายเปิดกระจกยิ้มเยาะเย้ยก่อนชิ่ง
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้เป็นแม่ได้เล่าว่า เกิดเหตุขึ้นในคืนวันที่ 5 มีนาคม 2567 ช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. ลูกสาวและเพื่อน ๆ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อน 3 เพื่อไปหาซื้อขนมบริเวณถนนสายล่างราษฎรบำรุง อ.เมือง จ.ระยอง ในระหว่างทางที่ทั้ง 3 คนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ก็มีรถกระบะคันหนึ่ง ขับรถคร่อมเลนพยายามจะแซงขึ้นมา แต่รถกำลังจะพุ่งไปชนกับรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่อีกเลน จึงได้หักรถมาชนกับรถจักรยานยนต์ของลูกสาวอย่างจัง ทำให้ลูกสาวตนนั้นขาหัก ส่วนเพื่อน ๆ อีก 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย
คุณแม่จึงวิงวอนผู้ที่มีเบาะแส หรือมีกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าว ขอให้แจ้งและติดต่อมาที่ตน ทั้งยังฝากถึงคู่กรณี ขอให้ออกมารับผิดชอบในการกระทำในครั้งนี้ หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดกับญาติของคุณจะรู้สึกอย่างไร ขอให้มีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย
พร้อมทั้งเปิดรูปบาดแผลของลูกสาวให้สื่อดู พบว่า ผิวบริเวณข้อเท้าขวาหายไปเห็นแต่กระดูก ทางแพทย์เจ้าของไข้วินิจฉัยว่า ขาของลูกสาวผิดจนหักรูป กระดูกข้อเท้าแตกละเอียด ต้องผ่าตัดถึง 3 รอบ โดยได้ผ่าตัดไปแล้ว 2 ครั้ง และกำลังจะผ่าตัดครั้งที่ 3 โดยเป็นการผ่าตัดเพื่อเรียบกระดูกข้อเท้าใหม่
จากการเปิดคลิปวงจรปิดที่คุณแม่และผู้ปกครองของเพื่อนลูกสาวที่ได้รับบาดเจ็บหามาได้นั้น พบว่า หลังเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว รถกระบะคู่กรณี ได้เปิดกระจกรถยนต์ พร้อมทำมือชี้ ๆ และยิ้มร่าโดยปราศจากความสลด ทั้ง ๆ ที่พึ่งขับรถเฉี่ยวชนเด็กมาได้ไม่นาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หวิดดับคู่ สาวเสพยาเมา อุ้มลูกวัย 2 ขวบ หวังพุ่งให้รถชน เตรียมนำตัวไปบำบัดต่อ
- สติสำคัญ ‘สามี’ หลับใน ขับรถชนที่กั้นข้างทาง โชคดีรอดเพราะภรรยาช่วย
- หนุ่มออสเตรเลียถูกรถชนที่สมุย เจ็บหนัก กลับบ้านไม่ได้ ไม่มีเงินจ่ายค่าผ่าตัด