ถกสนั่น โรงเรียนดังสงขลาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว หลังครูสาวขอลาออก
ครูสาวโรงเรียนดังจังหวัดสงขลาวีนแตก ขอลาออก แต่เจอสถานศึกษาเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ชาวเน็ตเข้ามาถกสนั่นสมควรหรือไม่
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์เลยก็ว่าได้ หลังจากที่คุณครูสาวท่านหนึ่งสังกัดโรงเรียนดังในจังหวัดสงขลา ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่คาดไม่ถึงว่าทางสถาบันการศึกษาจะทำเช่นนี้กับเธอ นั่นคือการเอาข้อมูลส่วนตัวของเธอมาโพสต์ในโลกออนไลน์หลังจากที่เธอแจ้งขอลาออก
คุณครูสาวท่านนี้แคปภาพจากที่เพจเฟซบุ๊กของโรงเรียนโพสต์สาเหตุส่วนตัวที่ครูสาวขอลาออก พร้อมระบุว่า “ทางโรงเรียนได้ลบโพสต์แล้วค่ะ เนื่องจากทัวร์ลงเยอะมาก ถึงแม้จะลบโพสต์แล้ว แต่ทางเราได้เกิดความเสียหายไปแล้วค่ะ เนื่องจากข้อมูลบางอย่างของครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว เช่น ข้อมูลทางธุรกิจส่วนตัวของครอบครัว และข้อมูลผู้ป่วยของพี่สาวแฟน ซึ่งไม่ควรนำมาเผยแพร่ ขอเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด ฝากทุกคนช่วยกันแชร์หน่อยนะคะ”
สำหรับโพสต์ต้นทางที่ถูกลบไปจากเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน ได้ระบุข้อมูลส่วนตัวเชิงลึกของครูสาวท่านนี้ไว้หลายประการ ซึ่งในส่วนนี้ทีมงานเดอะไทยเกอร์ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้คุณครูสาวท่านนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก กระทบไปถึงชีวิตส่วนตัว ซึ่งในประกาศของทางโรงเรียนได้ระบุว่าเหตุผลที่ออกมาโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของครูสาวรายนี้เนื่องจากคุณครูไม่ได้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับทางโรงเรียนเดิม
ทั้งนี้ ครูสาวก็ได้มีการชี้แจงเพิ่มเติมด้วยว่าตนนั้นได้ส่งมอบภาระงานให้ทางโรงเรียนแล้ว ด้านผู้อำนวยการก็เซ็นอนุมัติให้ลาออก และครูสาวก็ได้ทำตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับทางโรงเรียนด้วย ความว่า “ขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมนะคะ ครูได้ส่งภาระงานให้ผู้ช่วยผู้อำนวยการตรวจสอบเรียบร้อยแล้วนะคะ ทั้งคะแนนหน่วย โครงการ เอกสารสรุปข้อมูลต่างๆ เอกสารประจำชั้น และผู้อำนวยการได้เซ็นอนุมัติให้ลาออกแล้วค่ะ และพูดคุยกับผู้อำนวยการว่า สามารถสอนงานคุณครูท่านใหม่ผ่านทางไลน์ส่วนตัวได้”
หลังจากที่เรื่องราวราวดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาถามหาความเหมาะสมกับโรงเรียนชื่อดังกันอย่างมากมาย โดยส่วนใหญ่มองว่าการกระทำของโรงเรียนนั้นไม่เหมาะสมและเข้าข่ายผิดกฎหมาย เนื่องจากนำข้อมูลส่วนตัวของคนอื่นมาเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ในตอนนี้ทางโรงเรียนจะยังไม่ออกมาเคลื่อนต่อประเด็นดังกล่าวแต่ทางคุณครูสาวรายนี้ก็คงต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงานอื่นต่อไปว่าไม่ควรนำข้อมูลของบุคลากรมาเปิดเผยลงโซเชียล