โซเชียลผุดแฮชแท็กร้อน #แบนเที่ยวเกาหลี หลังเจอเคสส่งกลับนักท่องเที่ยวไทยแบบไร้เหตุผล เดือดจะลากตัวผีน้อยเกาหลีออกจากไทยให้หมด
หลังจากมีกระแสเรื่องด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของประเทศเกาหลีใต้ ที่มักใช้ดุลยพินิจแปลก ๆ ในการพิจารณานักท่องเที่ยวไทยให้ผ่านเข้าประเทศ กระทั่งเคสล่าสุด (24 ต.ค. 66) ที่หญิงสาวรายหนึ่งออกมาเล่าประสบการณ์ติด ตม.เกาหลี ผ่านทางทวิตเตอร์ ซึ่งมียอดคนรีทวิตไปกว่า 18,000 ครั้ง ทำเอาแฮชแท็ก #ตมเกาหลี ติดเทรนด์อันดับ 1 ในทวิตเตอร์อยู่พักใหญ่
กระทั่งตอนนี้หลายคนเริ่มตระหนักได้ว่าปัญหาการติด ตม.เกาหลี ของคนไทยควรถูกนำไปพิจารณาในระดับชาติเสียที เนื่องจากทำให้นักท่องเที่ยวไทยรู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยามและถูกเลือกปฏิบัติ แม้จะเป็นคนเอเชียด้วยกันเองก็ตาม ทำให้เกิดแฮชแท็กร้อน #แบนเที่ยวเกาหลี ขึ้นมาแซงเป็นอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ ซึ่งชาวเน็ตหลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันในหัวข้อนี้เป็นจำนวนมาก
หลายคนมองว่าแม้การขึ้นแฮชแท็กในลักษณะดังกล่าวอาจจะไม่กระทบต่อยอดนักท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ในแต่ละปี แต่ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าคนไทยไม่เห็นด้วยที่ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลี และต้องการให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน
นอกจากนี้ หลายคนยังพูดถึงวิธีการเอาคืนชาวเกาหลีอย่างการส่งผีน้อยเกาหลีที่แอบมาทำงานสงวนผิดกฎหมายในไทยกลับประเทศบ้าง รวมไปถึงการพูดคุยในประเด็นเรื่องการแข่งขันทางการท่องเที่ยวที่หลายคนคิดว่าประเทศไทยการท่องเที่ยวก็ไม่น้อยหน้าประเทศไหนเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับประเทศเกาหลีใต้
ทั้งนี้ หลายคนพยายามจับสังเกตพฤติกรรมการคัดคนเข้าประเทศของทางเกาหลีว่าดูมีพิรุธ โดยอธิบายว่าประเทศเกาหลีนั้นขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรอย่างมาก จึงเลือกที่จะปิดหูปิดตารับผีน้อยเข้าไปทำงาน และแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแทนด้วยการพิจารณาคัดคนเข้าประเทศแบบไร้มาตรฐานและกฎเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าการแสดงออกเช่นนี้จะสามารถส่งสารไปถึงหูของผู้มีอำนาจให้จัดการเรื่องนี้อย่างไรได้บ้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
