หนุ่มอินเดีย ป่วยเป็นโรคเนื้อเน่า ติดแบคทีเรียกินเนื้อคน เดินไม่ได้ อาจต้องตัดขาทิ้ง
หนุ่มอินเดียที่ทำงานในสิงค์โปร์ป่วยเป็น โรคเนื้อเน่า ติดแบคทีเรียกินเนื้อคน หลังเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ล่าสุดเดินไม่ได้ อาจต้องตัดขาทิ้ง
เมื่อวันที่ 28 กันยายน เว็บไซต์ มาเธอร์ชิป รายงานว่านาย อัมจัด ข่าน ชายชาวอินเดียวัย 42 ปีที่ทำงานในประเทศสิงคโปร์ ติดเชื้อ Necrotizing Fasciitis หรือแบคทีเรียกินเนื้อคนส่งผลให้เป็นโรคเนื้อเน่า หลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศอินเดีย ทำให้เขาป่วยหนักถึงขั้นเดินไม่ได้และรุนแรงอาจจะต้องตัดขา
โดยเขาเริ่มแสดงอาการป่วยเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขารู้สึกถึงอาการปวดประหลาดที่บริเวณขาขวาของเขา ตอนแรกๆคลินิกคิดว่าเขาป่วยเป็นโรคเก๊าท์ และจัดยามาให้ ทว่าอาการของเขาแย่ลงเรื่อยๆ ทำให้เขาตัดสินใจไปหาหมออีกคน ซึ่งรอบนี้อาการเขามีอาการหายใจไม่ออกและขาบวมด้วย จากการตรวจสอบรอบนี้พบว่าเขาติดเชื้อแบคทีเรียกินคน
แพทย์คาดว่าแบคทีเรียชนิดนี้เข้าร่างกายผ่านบาดแผล และกระจายไปทั่วร่างกาย ซึ่งทำให้เขาหายใจไม่ออก โดยแพทย์ต้องนำเนื้อเยื่อออกจากขาเขาเกือบทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลาม และแพทย์กำลังพิจารณาว่าอาจจะต้องตัดขาเขาด้วย
“ผมรู้สึกเสียใจมากที่ผมเดินไม่ได้แล้ว” นายข่านให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น
ขณะที่ชาวเน็ตได้ระดมทุกเรี่ยไรเงินให้กับนายข่าน หลังจากที่มีรายงานว่าปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลของเขาสูงถึง 2.6 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่าประกันบริษัทไปมาก โดยนายข่านนั้นทำงานเลี้ยงดูครอบครัว 9 คน และเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว
ทั้งนี้หากอ้างอิงข้อมูลจากกรมการแพทย์ของประเทศไทยได้ระบุว่า โรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis) หรือแบคทีเรียกินเนื้อคน เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง พบได้ในคนทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่จะระบาดในฤดูฝน ช่วงเกษตรลงดำนาลุยโคลน การติดเชื้อมักมีอาการรวดเร็ว และรุนแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและถูกต้อง อาจนำมาซึ่งการสูญเสียอวัยวะและอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
หญิงถูกตัดแขนตัดขาทั้งหมด ติดเชื้อ ‘แบคทีเรียกินเนื้อคน’ หลังทานปลานิล