โซเชียลถกสนั่น “เอริกา โรบิน” สาวงามวัย 24 ปี คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สปากีสถานเป็นคนแรก กลับถูกโจมตี ปากีสถานไม่ควรมีมิสยูนิเวิร์ส ทั้งยังมีผู้เข้าประกวดเพียง 5 คน
วงการนางงามปากีสถานกำลังเดือดจัด สืบเนื่องจากวันที่ 14 กันยายน 2566 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางสาวเอริกา โรบิน (Erica Robin) วัย 24 ปี สาวงามจากเมืองการาจี คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สปากีสถานคนแรก และได้เป็นตัวแทนของประเทศปากีสถานประกวดมิสยูนิเวิร์สระดับโลก ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ ปี 2566 นี้
ตามรายงานของ The National สื่อสิ่งพิมพ์ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า บริษัทที่จัดประกวดคือ บริษัท Yugen Group ที่มีฐานอยู่ในประเทศดูไบ ประกาศว่าได้รับสิทธิ์จัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สปากีสถานเมื่อเดือนมีนาคม อีกทั้งบริษัทยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สบาห์เรน และมิสยูนิเวิร์สอียิปต์อีกด้วย
ภายหลังจากได้ผู้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สปากีสถาน เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย เนื่องจากสถานที่จัดประกวดมิสยูนิเวิร์สปากีสถาน ไม่ได้จัดที่ปากีสถานแต่จัดที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ และมีสาวงามผู้เข้าประกวดเพียง 5 คนเท่านั้น
จากความไม่สมเหตุสมผลของการจัดการประกวด จึงกระตุ้นความเดือดดาลจากฝ่ายอนุรักษนิยม ทำให้เกิดคำถามว่า ใคร ๆ ก็สามารถเป็นตัวแทนของปากีสถานอย่างเป็นทางการได้ โดยไม่ต้องลงนามอย่างเป็นทางการได้อย่างไร และเกิดผู้ที่คัดค้านการประกวดขึ้นมา
ผู้ที่คัดค้าน อาทิ นายทากี อุสมานี นักวิชาการศาสนา เขายืนกรานให้รัฐบาลรับทราบ และดำเนินการกับผู้รับผิดชอบการประกวด และยังเรียกร้องว่าปากีสถานไม่ควรมีตัวแทนสาวงามเข้าร่วมการประกวด ด้านนายมุชตาค อาเหม็ด จากพรรคจามัต อี อิสลามิ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) ว่า การประกวดมิสยูนิเวิร์สเป็นเรื่องน่าละอายสำหรับปากีสถาน
ขณะที่นักข่าวนามว่า อันซาร์ อับบาซี ก็แสดงท่าทีไม่พอใจเช่นเดียวกัน เขาถามว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนอนุมัติให้จัดประกวดนางงาม รวมถึงนายมูร์ตาซา โซลันกิ รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศและการแพร่ภาพกระจายเสียง โพสต์ข้อความตอบกลับว่า รัฐบาลไม่ได้เสนอชื่อใครอย่างเป็นทางการสำหรับการประกวดมิสยูนิเวิร์ส
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สปากีสถานได้ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน เช่น นางสาวโซห์รา ยูซุฟ อดีตประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งปากีสถานกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.มาลาลา ยูซัฟไซ นักเคลื่อนไหวสนับสนุนการศึกษาสตรี และน.ส.ชาร์มี ชินอย นักข่าวและผู้สร้างภาพยนตร์ก็ถูกประณาม ตอนนี้กลับกลายเป็น น.ส.เอริกา โรบินที่ตกเป็นเป้าโจมตีแทน นี่เป็นทัศนคติที่สะท้อนถึงการเกลียดชังเพศหญิง
ด้านชาวเน็ตในโซเชียลมีเดียก็ออกมาให้กำลังใจ น.ส.โรบิน รวมถึงนักข่าวสาวนามว่า มาเรียนา บาบาร์ ได้โพสต์ทวิตเตอร์ (X) ระบุว่า ปากีสถานเป็นของทุกคน และชาวปากีสถานทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นตัวแทนของประเทศ เธอเข้าใจภาระหน้าที่และความกดดันของ น.ส.โรบิน ในฐานะที่เป็นมิสยูนิเวิร์สปากีสถานเป็นคนแรก
น.ส.โรบินเคยให้สัมภาษณ์กับ VOA Urdu เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 เธอกล่าวว่า ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเธอ เธอจะไม่ทำอะไรก็ตามที่จะทำให้ประเทศเสื่อมเสียชื่อเสียง และมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนรู้จักเธอในฐานะชาวปากีสถานบนเวทีโลก
สาวงามปากีสถานยังระบุด้วยว่า วานีซา อาเหม็ด นางแบบและนักแสดงชาวปากีสถาน สนับสนุนให้เธอเข้าสู่วงการนางแบบ อีกทั้งยังตั้งคำถามด้วยว่า ผู้คนที่วิพากษ์วิจารณ์ความสำเร็จของ น.ส.โรบินส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คนเหล่านั้นมีปัญหากับการประกวดของผู้หญิง แต่กับการประกวด มิสเตอร์ปากีสถาน พวกเขากลับไม่ได้ลุกขึ้นมาเรียกร้องแต่อย่างใด
สุดท้ายนี้ แม้จะเกิดดราม่าร้อนและมีกระแสข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศอาจเข้าไปตรวจสอบ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ใด ๆ บทสรุปของมิสยูนิเวิร์สปากีสถานจะเป็นอย่างไร หากมีข้อมูลเพิ่มเติม จะนำมาอัปเดตให้ทราบในภายหลังค่ะ
อ้างอิง : 1
