เลื่อนหารือจัดตั้งรัฐบาล ‘หมอชลน่าน’ หัวหน้าพรรค พท. แง้มลุ้นข่าวดี โหวตนายกรอบ 3
นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แจ้งรอฟังแถลงการณ์จาก “พรรคก้าวไกล” พร้อมกระซิบอาจมีข่าวดี แนวทางจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทยเป็นแกนนำต้องประสบผลสำเร็จ
เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเตรียมโหวตนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 จากเดิมนัดหารือกับพรรคก้าวไกล 10.00 น. แต่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการ พรรคก้าวไกล แจ้งจะมีการแถลงขา่ว จึงขอเลื่อนออกไปก่อน ส่วนตนเองยังคงย้ำว่าจะไม่ขอก้าวล่วงแนวทางก้าวไกล ลดเพดาน มาตรา 112
ส่วนกรอบเวลาสำหรับการตั้งทีมจัดตั้งรัฐบาลไทยนั้น นายแพทย์ ชลน่าน ได้ให้ข้อมูลว่า ยังมีเวลาถึงวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ก่อนเริ่มการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบที่ 3 ในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 จำต้องใช้เวลาให้คุ้มที่สุด ทั้งนี้ยืนยันพรรคร่วม จัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรคการเมืองจับมือเหนียวแน่น และยังไม่ถึงเวลาคิดกรณีอื่น
สำหรับการให้สัมภาษณ์ของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จากฝั่งพรรคเพื่อไทย ได้ที่ระบุชัดพรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก หรือแก้ไข มาตรา 112 ราวกับว่าเป็นการโบ้ยให้ พรรคก้าวไกล จำต้องยอมถอยเรื่องนี้หากต้องการร่วมตั้งรัฐบาล
ด้านนายแพทย์ ชลน่าน ประเมินสถานการณ์ว่า “เป็นความเห็นของนายเศรษฐา แต่หากฟังจากทุกพรรคการเมือง รวมถึงสมาชิกวุฒิสภาที่ได้อภิปรายในรัฐสภา ก็มีเสียงสะท้อนมาแบบนั้นก็อาจเป็น ประเด็นที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นไม่ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราจะโยนภาระไปให้พรรคก้าวไกลเขาพิจารณา” ก่อนเชื่อมีทางออก คือพรรคก้าวไกลจะพิจารณาอย่างไร ตนไม่ขอก้าวล่วง อาจจะมีข่าวดี 11 โมงนี้ก็ได้
อย่างไรก็ดีหาก พรรคก้าวไกล ยอมถอยเพดานแก้ไขกฎหมาย มาตรา 112 จะส่งผลลให้พรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาลได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเสียง สว.
นายแพทย์ ชลน่าน ชี้แจงในกรณี 2 คำถาม คือ 1. กรณีหากพรรคก้าวไกลยอมถอยจริง หลายพรรคการเมืองที่เคยออกมาพูดชัดว่าถ้าไม่มีเรื่องนี้ ก็พร้อมสนับสนุน ซึ่งจะเป็นทางออกอีกทางหนึ่ง 2. ส่วนจะต้องอาศัยเสียง สว. หรือไม่คงต้องไปดูถึงความจำเป็นภายหลัง ส่วนเป้าหมายเรา หากได้นำจัดตั้งรัฐบาลคือต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เสียงในรัฐบาลต้องได้ 375 เสียง นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องทำ ส่วนเงื่อนไขอะไรที่เป็นอุปสรรคต้องมาหารือกันต่อไป