วิธีตรวจสอบสิทธิบัตรทอง 2567 ออนไลน์ ทำได้ง่าย เช็กได้ทุกสิทธิ
เปิดขั้นตอน วิธีตรวจสอบสิทธิบัตรทอง ออนไลน์ 2567 ทำได้ง่าย ๆ เช็คได้ทุกที่ ทุกสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
บัตรทอง คือ บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพในการรักษาพยาบาลของคนไทย เมื่อเจ็บป่วยจะได้รับการรักษาจากสถานพยาบาลของภาครัฐ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล
ดังนั้นเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเรานั้น ได้รับสิทธิบัตรทองไหม ก็ต้องทำการ ตรวจสอบสิทธิบัตรทอง ในปี 2567 ซึ่งประชาชนสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทาง ออนไลน์ ได้แล้ววันนี้ แถมยังสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาอื่น ๆ ที่ขึ้นในระบบ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้อีกด้วย
วิธีตรวจสอบสิทธิบัตรทอง ออนไลน์ 2567
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. จึงได้มีกำหนด ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ เพื่อเช็คสิทธิรักษาพยาบาล และสิทธิบัตรทองของตนเองได้ 4 ช่องทาง โดยไม่ต้องไปถึงหน้าสำนักงาน มีดังนี้
1. โทรสายด่วน สปสช. 1330 กด 2 ตามด้วยหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แล้วกด #
2. เข้าไปที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th แล้วเลือกเมนู “สำหรับประชาชน” เลือก “ตรวจสอบสิทธิหลักประกันสุขภาพ” กรอกข้อมูล บัตรประชาชน – วัน/เดือน/ปีเกิด หรือเข้ามาที่ eservices.nhso.go.th
3. ดาวโหลดแอปพลิเคชั่น สปสช. ทั้งระบบ Android และ iOS เลือก ตรวจสอบสิทธิตนเอง
4. ตรวจสอบสิทธิผ่าน ไลน์ สปสช. โดยสแกน QR CODE หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. เลือกเมนู ตรวจสอบสิทธิ
สามาถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมการใช้สิทธิบัตรทอง ผ่านสายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้ง ไลน์ @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ล่าสุด นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เผยว่า ในวันที่ 26 ส.ค. 67 ทางสำนักงานฯได้จัดตรียมความพร้อมสำหรับบริการประชาชนผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นที่เรียบร้อย(โครงการKick off โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ กรุงเทพมหานคร) พร้อมจัดบริการอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น บริการการแพทย์ไกล, เจาะเลือดที่บ้าน, รถรับส่งผู้ป่วย, รถทันตกรรมเคลื่อนที่ และตู้เทเลเมดดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน
รวมถึงเพิ่มช่องทางติดต่อข้อมูลพิเศษ “สายด่วน สปสช. 1330 กด 6” สำหรับการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแจ้งปัญหาติดขัดในการรับบริการในโครงการบัตรทองข้างต้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่สายด่วนเชิงรุกประจำโรงพยาบาลตติยภูมิในพื้นที่ กทม. ช่วยสนับสนุนการคัดกรองผู้ป่วย อำนวยความสะดวก และประสานส่งต่อผู้ป่วย กรณีเกิดปัญหาจากการวอล์กอินเข้าไปรับบริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาได้ทุกที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงพยาบาลรัฐสังกัดต่าง ๆ ที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ที่เป็นโรงพยายาลระดับทุติยภูมิและตติยภูมิจะรับเฉพาะผู้ที่ได้รับการส่งตัวเท่านั้น
หากต้องการแจ้งปัญหาหรือสอบถามวิธีแก้ไข สามารถโทร. สายด่วน สปสช. 1330 ได้เลย
บริการสายด่วน สปสช. 1330 กด 6
- การให้บริการสอบถามข้อมูล
- บริการนัดหมายและจองคิว
- บริการแนะนำการเข้ารับบริการ
- บริการรับรองสิทธิการเข้ารับบริการ
- การประสานโรงพยาบาล ส่งต่อข้อมูลให้หน่วยบริการนวัตกรรมกรณีที่ผู้ป่วยต้องการเข้ารับบริการที่หน่วยนวัตกรรม เช่น กายภาพบำบัด เป็นต้น
- การประสานรับบริการกรณีที่ไม่ได้รับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเชิงรุก อาทิ บริการแว่นตาเด็ก เป็นต้น
- ประสานการจัดพาหนะรับส่งผู้ป่วยและผู้ทุพพลภาพระหว่างหน่วยบริการ และระหว่างบ้านไปยังหน่วยบริการ
- บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในชุมชน สถานประกอบการ เช่น รถทันตกรรมเคลื่อนที่ในชุมชน เจาะเลือดที่บ้าน
นอกจากหน่วยบริการปฐมภูมิ-ประจำตามสิทธิของประชาชนในโครงการนั้น หากไม่สะดวก ประชาชนสามารถเข้าใช้หน่วยบริการนวัตกรรม 7 ประเภท รวม 1,500 แห่ง ดังนี้
- ร้านยาคุณภาพ
- คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น
- คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น
- คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น
- คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น
- คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น
- และคลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น
ทั้งนี้ หากรวมพื้นที่กรุงเทพฯในโครงการข้างต้น (26 ส.ค. 67) กับ 45 จังหวัดตามนโย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว พ.ศ.2567 ก่อนหน้านี้ จะมีรายชื่อพื้นที่บริการรักษาบัตรทองรวมทั้งหมด 46 จังหวัด ประกอบไปด้วย
- จังหวัดนครราชสีมา
- จังหวัดนครสวรรค์
- จังหวัดพังงา
- จังหวัดเพชรบูรณ์
- จังหวัดสระแก้ว
- จังหวัดสิงห์บุรี
- จังหวัดหนองบัวลำภู
- จังหวัดอำนาจเจริญ
- จังหวัดเชียงใหม่
- จังหวัดเชียงราย
- จังหวัดน่าน
- จังหวัดพะเยา
- จังหวัดลำปาง
- จังหวัดลำพูน
- จังหวัดแม่ฮ่องสอน
- จังหวัดกำแพงเพชร
- จังหวัดพิจิตร
- จังหวัดชัยนาท
- จังหวัดอุทัยธานี
- จังหวัดสระบุรี
- จังหวัดนนทบุรี
- จังหวัดลพบุรี
- จังหวัดอ่างทอง
- จังหวัดนครนายก
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- จังหวัดปทุมธานี
- จังหวัดอุดรธานี
- จังหวัดสกลนคร
- จังหวัดนครพนม
- จังหวัดเลย
- จังหวัดหนองคาย
- จังหวัดบึงกาฬ
- จังหวัดชัยภูมิ
- จังหวัดบุรีรัมย์
- จังหวัดสุรินทร์
- จังหวัดสงขลา
- จังหวัดสตูล
- จังหวัดตรัง
- จังหวัดพัทลุง
- จังหวัดปัตตานี
- จังหวัดยะลา
- กรุงเทพมหานคร
- ร้อยเอ็ด
- แพร่
- เพชรบุรี
- นราธิวาส
สำหรับพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ในลิสต์ข้างต้น ทางภาครัฐแจ้งว่าจะจัดแจงเพิ่มพื้นที่บริการเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศภายในปี 2567 ซึ่งประชาชนสามารถติดตามประกาศได้ต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กเพจ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เผยว่าเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดตัวบริการ “30 บาท รักษาทุกที่” บนแอปพลิเคชันทางรัฐ ซึ่งสามารถคาดได้ว่า อาจเกี่ยวข้องกับการสอบถามข้อมูลโครงการฯเพิ่มเติม หรีอเช็กข้อมูลเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้มากขึ้น.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง