วิเคราะห์บอล! ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก คู่ แมนซิตี้ พบ เรอัล มาดริด 26 เม.ย.65
วิเคราะห์บอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก คู่ แมนซิตี้ พบ เรอัล มาดริด คืนนี้ 26 เม.ย. 65 เวลา 02.00 น.
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่คอบอลห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวด เมื่อเป็นการเจอกันของ 2 ทีมที่นำเป็นจ่าฝูงของ 2 ลีกใหญ่แห่งยุโรป ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมจากศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เรอัล มาดริด ว่าที่แชมป์ ลาลีกา สเปน
วิเคราะห์บอล แมนซิตี้ VS เรอัล มาดริด
วันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 เวลา 02.00 น. (เช้ามืดวันพุธ)
สนาม : เอมิเตส์ สเตเดี้ยม
ผลงานการพบกัน 5 นัดหลังสุด
- 27/04/16 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 05/05/16 เรอัล มาดริด 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 27/07/17 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-1 เรอัล มาดริด (อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ)
- 27/02/20 เรอัล มาดริด 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 08/08/20 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 เรอัล มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม :
แมนฯ ซิตี้
- 10/04/22 เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
- 13/04/22 เสมอ แอตเลติโก มาดริด 0-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 16/04/22 แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 (สนามกลาง, เอฟเอ คัพ)
- 20/04/22 ชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-0
- 23/04/22 ชนะ วัตฟอร์ด 5-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
เรอัล มาดริด
- 06/04/22 ชนะ เชลซี 3-1 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 09/04/22 ชนะ เคตาเฟ่ 2-0 (เหย้า, ลา ลีกา)
- 12/04/22 แพ้ เชลซี 2-3 (E) (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
- 17/04/22 ชนะ เซบีย่า 3-2 (เยือน, ลา ลีกา)
- 20/04/22 ชนะ โอซาซูน่า 3-1 (เยือน, ลา ลีกา)
ความพร้อมของทั้งสองทีม :
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแกร่งจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มดีสุดๆ แต่หนึ่งสิ่งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องปวดหัวใเนกมนี้ นั่นก็คือตำแหน่งแบ็คขวา เพราะนักเตะตัวหลักอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ ต้องเช็คความฟิตก่อนเกมว่าจะลงสนามได้หรือไม่ ส่วนอีกหนึ่งคนที่เล่นตำแหน่งนี้ได้อย่าง ชูเอา คันเซโล่ ติดโทษแบน
ส่วนนักเตะตัวหลักคนอื่นๆพร้อมลงช่วยทีมในเกมนี้ทั้งหมด นำโดย เอแดร์ซอน โมราเอส, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ต, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ กาเบรียล เชซุส
ส่วนทางด้าน เรอัล มาดริด ยอดทีมจากเวที ลาลีกา สเปน ที่ต้องการอีกเพยีงแค่แต้มเดียวก็จะการันตีการคว้าแชมป์ลีกในซีซั่นนี้ไปครอง โดยในเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ จะไม่มีชื่อของ เอแด็น อาซาร์ ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ
รวมไปถึง ดาบิด อลาบา ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณต้นขามาจากเกมล่าสุด และยังมีนักเตะที่ต้องเช็คความฟิตอีกหลายราย ทั้ง คาเซมิโร่, แฟร์กล็องต์ เมนดี้, ลูก้า โยวิช, มาเรียโน่ ดีอาซ และ เฆซุส บาเยโฆ
แต่จะได้ เอแดร์ มิลิเตา เซ็นเตอร์ตัวหลักพ้นโทษแบน กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
ส่วนนักเตะตัวหลักคนอื่นๆยังอยู่กับครบ นำโดย ติโบต์ กูร์กตัวส์, ดานี่ การ์บาฆาล, นาโช่ แฟร์นานเดซ, มาร์เซโล่, เอดูอาร์โด้ คาวาแม็งก้า, ลูก้า โมดริช, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซม่า
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนี้ :
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส (GK) – ไคล์ วอล์คเกอร์ , รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – แบร์นาโด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แฟร์นานดินโญ่ – ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ (GK) – ดานี่ การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, มาร์เชโล่ – โทนี่ โครส, เอดูอาร์โด้ คามาแว็งก้า, ลูก้า โมดริช – เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์
สถิติก่อนเกม
- ทั้งสองทีมเจอกันในรายการนี้มาแล้ว 6 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ 2 นัด เรอัล มาดริด ชนะ 2 นัด จบลงด้วยผลเสมอ 2 นัด
- เป็นการโคจรมาเจอกันในรอบรองชนะเลิศอีกครั้งในรายการนี้ หลังจากทั้งคู่เคยเจอกันในรอบนี้มาแล้วเมื่อฤดูกาล 2015-2016 โดยเกมแรกที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จบด้วยผลเสมอ ก่อนที่นัดที่ 2 แฟร์นานโด้ จะมาทำเข้าประตูตัวเองที่ แบร์นาบิว ทำให้ เรอัล มาดริด ผ่านเข้าชิงชนะเลิศในปีนั้น และคว้าแชมป์ด้วยการดวลจุดโทษ ชนะ แอตเลติโก้ มาดริด ทีมเพื่อนร่วมลีก
- ถือเป็นแม็ตช์ทีมจากพรีเมียรลีก-ลา ลีกา 2 นัดต่อเนื่องของทั้งคู่ หลังจากที่รอบก่อน 8 ทีมสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่าน แอต.มาดริด มาได้ ขณะที่ เรอัล มาดริด หยุดเส้นทางของแชมป์เก่าอย่าง เชลซี เอาไว้
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปีที่แล้วเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนแพ้ให้กับ เชลซี ซึ่งปีนี้พวกเขาก็หวังจะทะลุสู่รอบชิงเป็นครั้งที่ 2 ใน 2 ปีติดต่อกัน
- เป็นการทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นครั้งที่ 3 ในรายการนี้ จาก 7 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ (แพ้ 1 ชนะ 1)
- เรอัล มาดริด ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15 ซึ่งเป็นสถิติมากที่สุด โดยมากกว่า บาร์เซโลน่าและบาเยิร์น มิวนิค อยู่ 3 ครั้ง
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการนี้ ขณะที่ เรอัล มาดริด แชมป์รายการนี้มาแล้ว 13 สมัย ซึ่งถือเป็นทีมที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากที่สุด
- เป๊ป กวาดิโอล่า พา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่แพ้ในบ้าน 19 เกมยุโรป (ชนะ 17 เสมอ 2) โดยการแพ้ล่าสุดแพ้ให้ ลียง 1-2 ในเกมรอบแบ่วกลุ่มนัดแรกเมื่อฤดูกาล 2018-2019
- อิสต์วาน โควัชส์ ผู้ตัดสินเกมนี้ เคยเป่าเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงเตะในฤดูกาลนี้มาแล้ว 2 นัด ซึ่งที่ลงตัดสินก็ชนะทั้ง 2 นัด คือในเกมรอบแบ่งกลุ่ม ที่บุกไปชนะ คลับ บรู๊กก์ 5-1 และในรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ แอต.มาดริด 1-0
สกอร์ที่คาด : แมน ซิตี้ 2-1 เรอัล มาดริด