นิติฯ คอนโด รปภ.หื่น หอบหลักฐานแจง โต้ประวิงเวลา 2 ชั่วโมง
นิติคอนโด หัวหน้า รปภ.ข่มขืน สาวลูกบ้าน หอบหลักฐานแจงความบริสุทธิ์ พร้อมอธิบายระเบียบอาคาร โต้ประวิงเวลา 2 ชั่วโมง
จากกรณี หัวหน้า รปภ. นายมนตรี ใหญ่กระโทก ก่อเหตุข่มขืนลูกบ้านหญิง อายุ 36 ปี ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนบุรีแห่งหนึ่ง ตามที่มีข่าวนำเสนอไปก่อนหน้า
ล่าสุดวันนี้ (6 ม.ค.64) รายงานจากเว็บไซต์ Khaosod Online นายปกครอง อรรจนาการ ผู้จัดการพื้นที่ของคอนโด พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วิสิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม เพื่อมอบหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ กรณีถูกวิจารณ์เรื่องการไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเกิดเหตุ จนส่งผลให้ไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้
ประเด็นนี้ ผู้จัดการคอนโด อธิบายว่า วันเกิดเรื่อง ยืนยันว่าไม่ได้ประวิงเวลา หากดูจากภาพกล้องวงจรปิด ญาติของผู้เสียหายได้เดินทางไปยังตึก เอ ทว่าเหตุเกิดที่ตึกบี ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ในส่วนผู้เสียหายกลุ่มที่ 3 ที่ไม่สามารถเข้าไปยังตัวอาคารได้นั้น เนื่องจากทาง รปภ. ไม่มีคีย์การ์ด เพราะช่างของอาคารได้พาญาติกลุ่มที่ 1 ขึ้นไปยังอาคารแล้ว
ขณะนี้ทางนิติบุคคลฯ ของคอนโดมิเนียมได้ติดต่อไปยังผู้เสียหายและบริษัท รปภ. แล้ว โดยตามระเบียบของโครงการ การที่ช่างกุญแจจะขึ้นไปยังตัวอาคารได้ รปภ.ต้องประสานกับช่างของอาคาร ทว่าผู้ต้องหาได้พาช่างทำกุญแจขึ้นไปยังอาคารโดยไม่ประสานกับทางช่างของอาคาร ซึ่งผิดขั้นตอนของโครงการ ซึ่งนับตั้งแต่ปฏิบัติหน้าที่มา ไม่เคยมีปัญหาในลักษณะนี้มาก่อน
โดยปกติในยามวิกาล ผู้มีคีย์การ์ดเข้าอาคารคือหัวหน้า รปภ. และช่างของอาคาร แต่ไม่สามารถเข้าไปยังห้องของผู้พักอาศัยได้แต่อย่างใด กรณีที่ผู้พักอาศัยทำกุญแจหาย จะมีการประสานช่างภายนอกที่ติดต่อไว้เข้ามา ขณะนี้ได้ติดต่อไปยังทางผู้เสียหาย และบริษัทรักษาความปลอดภัยแล้ว แต่ทางผู้เสียหายยังไม่พร้อมที่จะพูดคุย ซึ่งจะเร่งเยียวยาโดยด่วน
ทั้งนี้ ในกรณีที่มีบุคคลภายนอกเข้ามายังอาคาร เจ้าของห้องจะเดินทางมารับขึ้นไปยังอาคารอยู่แล้ว โดยทางคอนโดมีรายได้หลักจากค่าส่วนกลาง ซี่งไม่เพียงพอที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางบริษัทรักษาความปลอดภัยได้จัดหาเจ้าหน้าที่ชุดใหม่ที่มีการสอบใบอนุญาตแล้ว
ส่วนในเรื่องของหลักฐาน ผจก.คอนโด ระบุ วันนี้เดินทางมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ อยากให้ทางตำรวจได้รับหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ส่วนอื่น ขึ้นอยู่กับสังคม ว่าจะพิจารณาอย่างไร