หุบเสือโหน่ง ประกาศ ‘ปิด’ ไม่มีกำหนด หลังเจอ นทท. มั่วยา
หุบเสือโหน่ง สถานที่กางเต้นท์ชื่อดังใน จ.กาญจนบุรี ประกาศ ปิด ไม่มีกำหนด หลังเจอวัยรุ่นมั่วยา จนเกือบหวิดดับ
หุบเสือโหน่ง – เพจเฟซบุ๊กของ หุบเสือโหน่ง สถานที่ท่องเที่ยวและจุดกางเต้นท์ใน จ.กาญจนบุรี ได้ออกมาเฟซบุ๊กขอโทษหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ได้ตะโกนต่อว่าและทำให้นักท่องเที่ยวหญิงสองคนต้องออกจากพื้นที่ช่วงกลางดึกของวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมสั่งปิดอย่างไม่มีกำหนด
โดยข้อความระบุว่า “หุบเสือโหน่ง แสดงความรับผิดชอบและขอชี้แจง กับเหตุการณ์ในคืนวันเสาร์ที่27กพ.2564 ทางลานกางเต็นท์ขอแสดงความรับชอบ โดยให้เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลลานกางเต็นท์”หุบเสือโหน่ง”พ้นสภาพการเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยภายในลานกางเต็นท์ เนื่องจากควบคุมดูแลความเรียบร้อยภายในลานกางเต็นท์ไม่ได้ และทางเรา ขอรับผิดชอบ โดยการปิดลานกางเต็นท์ทุกๆลานของหุบเสือโหน่งอย่างไม่มีกำหนด
ทาง”หุบเสือโหน่ง”ขอขอบคุณ คุณหมอที่ได้ช่วยนักท่องเที่ยวที่มีอาการชักเกรงในคืนวันนั้น และทางเราต้องขอโทษแทนคนที่ดูแล แสดงวาจาที่ไม่สุภาพกับคุณหมอด้วยนะครับ ทางหุบเสือโหน่ง ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ หวังว่าเหตุการณ์นี้คงเป็นอุทาหรณ์ให้กับลานกางเต็นท์และนักท่องเที่ยวทุกๆคนนะครับ
ขอบคุณครับ”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้มี “หมอ” ที่เป็นผู้เข้าพักที่ หุบเสือโหน่ง ได้โพสต์แบ่งปันประสบการณ์ของเธอในขณะที่เธอเข้าพักและพบกับ กลุ่มวัยรุ่นที่มั่วสุมยา จนเกิดอาการชัก โดยนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวได้เข้าช่วยเหลือ วัยรุ่นที่เกิดอาการชัก และนำตัวส่งโรงพยาบาล
ซึ่งหลังเหตุการณ์ดังกล่าวเธอก็ได้แจ้งกับทางเจ้าที่ของหุบเสือโหน่งดังนี้
“1. ดิฉันและเพื่อนมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวใช้สารเสพติด ซึ่งไม่รู้ว่าจริงๆแล้วใช้อะไรบ้าง หากภายหลังมีอาการคลุ้มคลั่ง หรือ อาการแทรกซ้อนอื่นๆจากสารเสพติด จะเกิดอันตรายต่อคนอื่นๆที่พักรอบๆหรือไม่
2. ขอให้เจ้าหน้าที่หุบเสือโหน่ง พิจารณาให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวออกจากพื้นที่ หรือจุดที่ห่างไกลคน
3. ถ้าไม่สามารถจัดการได้ จะขอ ‘รีวิว’ ตามจริง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่รับเรื่องและบอกว่าจะช่วยดำเนินการให้ ผ่านไป 20 นาที 23.30 น. เจ้าหน้าที่เสนอให้ดิฉันและเพื่อนย้ายไปนอนที่ห้องพักด้านล่างแทนเพราะคิดว่าการขอให้กลุ่มวัยรุ่นออกไป อาจเกิดปากเสียง (ดิฉันกับเพื่อนย้าย… แล้วคนอื่นๆที่ยังพักบริเวณนั้น?)”
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา มีเจ้าหน้าผู้ชายอายุประมาณ 40-50 ปี มายืนตะโกนหน้าเต็นท์โซนด้านบน ‘ไหน ใครจะมาริวิวประจานที่พัก บอกว่าวัยรุ่นคนอื่นๆที่เหลือไม่ใช้ยาด้วย จะไล่ออกไปได้อย่างไร และต่อว่าผู้บอกเล่าเรื่องราวซึ่งเป็นลูกค้า ซึ่งเธอได้อธิบายแล้วว่าดิฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน แต่ผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่เข้าใจเหตุผล
ส่งผลให้เธอกับเพื่อนตัดสินใจย้ายออก เก็บเต้นท์และเก็บของ โดย “ปราศจาก” การช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ หุบเสือโหน่ง ซึ่งเธอต้องออกไปหาที่พักในความมืดและเปลี่ยวถึง อ.หนองปรือ ห่างไป 30 กม. เข้าที่พักอื่นที่จองอย่างยากลำบาก 4-5 ที่ โทรไปและปฏิเสธการให้เข้าพัก เวลา 2.00น.