นฤมล แจงชัดงดกิจกรรมรื่นเริง ยังจัดกีฬาสี-จตุรมิตรได้ ไม่ปิดกั้นโอกาสนักเรียน

นฤมล รมว. กระทรวงศึกษาธิการ แจงชัดกรณีงดกิจกรรมรื่นเริง ไม่กระทบกีฬาสี-ฟุตบอลจตุรมิตร ถือเป็นหลักสูตรผู้เรียน ยัน ศธ. ไม่ปิดกั้นกิจกรรมนักเรียน แค่ของดงานสังสรรค์ งานเลี้ยง
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมากล่าวชี้แจงอย่างเป็นทางการเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด กรณีที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต โดยขอความร่วมมือให้งดจัดกิจกรรมที่มีลักษณะรื่นเริงเป็นเวลา 1 ปี เพื่อแสดงความอาลัย
รมว.ศึกษาธิการ ยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการเรียนการสอนหรือกิจกรรมเสริมหลักสูตรของนักเรียน แต่อย่างใด
ศ.ดร.นฤมล อธิบายถึงความหมายและขอบเขตของกิจกรรมที่ขอความร่วมมือให้งดจัดอย่างชัดเจนว่า กิจกรรมที่ควรงด คืองานสังสรรค์ที่ไม่เป็นทางการ และงานบันเทิงที่มีความครื้นเครง เช่น งานสังสรรค์ศิษย์เก่า หรืองานแสดงความยินดีรับ-ส่งตำแหน่ง ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ยังคงดำเนินการได้ตามปกติ เช่น กิจกรรมการเรียนการสอนในห้องเรียน และ กิจกรรมเสริมในหลักสูตรของนักเรียน
นอกจากนี้ยังคลายความกังวลของผู้ปกครองบางส่วนที่เกรงว่าหนังสือดังกล่าวจะกระทบต่อกิจกรรมสำคัญของนักเรียน เช่น กีฬาสี หรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ยืนยันว่า “กระทรวง ศธ. ไม่ได้มีสั่งห้ามหรือปิดกั้นการจัดกิจกรรมของเด็กนักเรียนแต่อย่างใด รวมถึงประเพณีการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีก็ยังสามารถจัดได้ เพราะถือเป็นกิจกรรมเสริมหลักสูตรของผู้เรียน เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ด้วย”
ทั้งนี้ได้กำชับปลัดกระทรวงศึกษาธิการให้แจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าใจความหมายและขอบเขตของประกาศดังกล่าวให้ชัดเจนและถือปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน พร้อมขอให้ผู้บริหารโรงเรียนสื่อสารกับครู นักเรียน และผู้ปกครองอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดี้ นิติพงษ์ เดือดถึงนายก จี้ รมว.ศึกษา มาอบรม ปมสั่งงดงานรื่นเริง 1 ปี
- COCKTAIL แจ้งสถานะทัวร์คอนเสิร์ต หลังมติ ครม. ขอความร่วมมืองดงานรื่นเริง
- ไว้ทุกข์ งดงานรื่นเริง 30 วัน เพจดัง ขอความชัดเจนอะไรจัดได้-ไม่ได้
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





